ทริปขับรถชมใบไม้เปลี่ยนสีสวิส-อิตาลี – ตอน 2 นี่แหละ Swiss - นายมด

ต่อจากตอนที่แล้ว เราย้ายที่พักจาก Zermatt มายัง Kandersteg เมืองในอ้อมกอดของหุบเขาใกล้ Interlaken ทางตอนกลางของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ … ใครมาเที่ยวสวิส ส่วนใหญ่ก็มักจะใช้ Interlaken เป็นศูนย์กลางเพราะจะไปไหนก็สะดวก จากเมืองนี้สามารถนั่งรถไฟไปทั่วทุกภูมิภาคโดยใช้เวลาไม่นาน คือเที่ยวแบบ day trip ได้สบายๆ นอกจากนี้จุดท่องเที่ยวสำคัญที่เป็น highlight หลายแห่งก็อยู่บริเวณตอนกลางของประเทศนี่แหละ ถ้าจะบอกว่าโซนนี้ถือเป็นหัวใจของสวิตเซอร์แลนด์ก็คงไม่ผิดนะ … ผมเองก็เลือกที่จะพักแถบนี้เช่นกันแต่เนื่องจากขับรถเองจึงมาพักในเมืองเล็กๆ ท่ามกลางหุบเขาอย่าง Kandersteg แทน จะได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้นและมีตัวเลือกที่พักราคาประหยัดมากกว่าด้วย

เช้าวันแรกใจกลางสวิสเรามีแผนเดินทางไปเที่ยวเมือง Lausanne โดยเลือกใช้เส้นทางที่ผ่านเมือง Zweisimmen เพราะจำได้ว่าตอนนั่งรถไฟสาย Golden pass สมัยเที่ยวสวิสครั้งแรกด้วยรถไฟ วิวช่วงที่ผ่านเมืองนี้สวยมากแต่ทำได้แค่เพียงถ่ายภาพจากหน้าต่างรถไฟ คราวนี้เมื่อมีโอกาสขับรถเองจึงเลือกที่จะใช้เส้นทางสายรองผ่านเมืองนี้ แล้วลัดเลาะผ่านเมือง Château-d’Oex ซึ่งตลอดทางวิวสวยสมกับเป็นสวิสจริงๆ … ยิ่งวันก่อนหน้ามีหิมะตก บนยอดเขาจึงเห็นหิมะขาวๆ ปกคลุม และบนพื้นหญ้าบางจุดก็ยังคงมีหิมะปกคลุมอยู่ ทำให้วิวตลอดทางสวย perfect มาก

บรรยากาศยามเช้าหลังที่พักในเมือง Kandersteg

วิวบนเส้นทางสายรองที่เราเลือก

จุดแวะถ่ายภาพพิกัด 46.492518, 7.255590 ใกล้เมือง Saanen … มีไหล่ทางให้จอดรถได้ 2-3 คัน วิวสวยควรค่าแก่การจอดถ่ายภาพเป็นอย่างยิ่ง

เราแวะทานข้าวเที่ยงกันที่เมือง Château-d’Oex และถือโอกาสซื้อของสดเพิ่มเติมจากร้าน co-op ในเมืองนี้ วิวจากลานจอดรถของร้านสวยเกินบรรยายจริงๆ

ออกเดินทางกันต่อ

ก่อนไปถึงจุดหมายของวันเราแวะเที่ยว Gruyères อีกเมืองเล็กๆ ปราสาทที่ตั้งอยู่บนเนินเขากับบ้านเรือนแบบโบราณเป็นอะไรที่เหมือนฉากในเทพนิยายไม่มีผิด

จากนั้นเราเดินทางตรงไปยัง Lausanne ซึ่งจุดหมายไม่ใช่การเที่ยวในตัวเมือง แต่เราตั้งใจไปสักการะ Thai Pavilion ในสวนสาธารณะริมทะเลสาบ ซึ่งถูกสร้างเพื่อเป็นที่ระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 รวมถึงเยี่ยมชมสถานที่ประวัติศาสตร์สมัยพระองค์ไปประทับอยู่ ณ ประเทศ Switzerland ครั้งยังทรงพระเยาว์

ศาลาไทย

บ้านเลขที่ 51 ซึ่งเคยเป็นวิลล่าพัฒนา

โรงเรียนที่เคยทรงศึกษา

บรรยากาศริมทะเลสาบ

ได้มีโอกาสขับผ่านเข้าไปในเมือง แต่ไม่ได้จอดแวะเที่ยว เป็นเมืองที่บรรยากาศน่าอยู่จริงๆ

ขากลับเราแวะชมไร่องุ่นที่เมือง Lavaux ริมทะเลสาบที่ใบเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองสวยงามและโรแมนติกมาก ที่นี่ห่างออกมาจากโลซานน์ไม่ไกล

วันถัดมา เรายังคงมีแผนเที่ยวบริเวณทะเลสาบ Thun และ Brienz ซึ่งขนาบเมือง Interlaken … ก่อนเดินทางไป Thun เราแวะเที่ยว Blausee ซึ่งอยู่ใกล้เมือง Kandersteg ที่พักของเราก่อน … Blausee เป็นทะเลสาบขนาดเล็กของเอกชนที่ต้องเสียค่าเข้าชม ภายในมีที่พักและร้านอาหาร รวมถึงกิจกรรมนั่งเรือตกปลาในทะเลสาบ หรือจะแค่เดินชมโดยรอบก็นับว่าคุ้มค่าแล้วเพราะสีของน้ำในทะเลสาบสวยงามมากจริงๆ

เดินทางต่อมาอีกหน่อย แวะถ่ายภาพที่จุดชมวิวสถานีรถไฟ Spiez ซึ่งสามารถทิวทัศน์อันงดงามของทะเลสาบ Thun และเมือง Spiez … (ที่จอดรถแบบจ่ายเงินจะอยู่ติดกับสถานีรถไฟเลยครับ)

หลังจากนั้นเราขับต่อไปยังเมือง Thun และแวะถ่ายภาพกันที่สวนสาธารณะริมทะเลสาบใกล้เมือง Thun แต่ไม่ได้แวะเที่ยวในเมืองเพราะต้องรีบไปขึ้นรถไฟสายโบราณ

จุดหมายของวันนี้คือการนั่งรถไฟสาย Brienzer-Rothorn ริมทะเลสาบ Brienz เพื่อขึ้นไปชมวิวด้านบน … ซึ่งช่วงปลายเดือนตุลาที่ผมไป รถไฟให้บริการถึงสถานีกลางทางเท่านั้น ทั้งนี้รถไฟจะให้บริการแบบเต็มรูปแบบจนถึง 22 ตุลาคมของทุกปี หลังจากนั้นต้องดูประกาศเป็นปีๆ ไป

ที่ผมเลือกนั่งรถไฟสายนี้นอกจากความสวยงามของวิวด้านบนแล้ว ยังได้มีโอกาสสัมผัสกับรถไฟสายโบราณที่ยังคงใช้หัวไอน้ำในการขับเคลื่อนด้วย แนะนำว่าอย่านั่งหน้าเกินไปเพราะอาจเจอควันเต็มๆ 555

สำหรับค่าตั๋วและตารางเดินรถสามารถดูได้ที่ https://brienz-rothorn-bahn.ch/timetable-prices/?lang=en

ลงจากชมวิวด้านบนก็ขับรถเลียบทะเลสาบกลับไปยังที่พัก วิวช่วงเย็นก็สวยไปอีกแบบ

ก่อนเดินทางต่อไปยังที่พักเมืองถัดไป เราแวะเที่ยวกันที่ Lauterbrunen … อีกเมืองที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ จุดเด่นของเมืองนี้อยู่ที่สายน้ำตกซึ่งไหลลงมาจากหน้าผาสู่ด้านล่าง ซึ่งผมเลือกที่จะเดินเข้าไปถ่ายภาพแบบใกล้ชิดเลย … สำหรับคนที่จะขึ้นไปชมยอดเขาจุงเฟรา เมืองนี้คือจุดขึ้นรถไฟนั่นเอง จึงไม่ต้องแปลกใจถ้าเจอนักท่องเที่ยวเยอะเป็นพิเศษในเมือง ส่วนผมกับเพื่อนๆ ไม่มีโปรแกรมขึ้นจุงเฟราในครั้งนี้จึงใช้เวลาอยู่กับความสวยงามของ Lauterbrunen แทน