Select Page

ทริปขับรถเที่ยวโครเอเชีย, สโลวีเนีย, บอสเนียฯ, มอนเตเนโกร – ตอนที่ 1 I FEEL SloveNIA

รีวิวก่อนหน้า ผมได้เล่าที่มาที่ไปของทริปและแผนการเดินทางรวมถึงการเตรียมตัวทั้งหมดไปแล้ว ใครสนใจรายละเอียดก็ตามลิ้งค์นี้ไปได้เลย (https://www.9mot.com/2018/06/road-trip-croatia-slovenia-bosnia-motenegro/)  ทีนี้ก็ได้เวลาเล่าประสบการณ์เดินทางของแต่ละเมืองบ้างเริ่มที่ประเทศสโลวีเนียก่อนเลย

 

ก่อนออกเดินทางไปเที่ยวกัน ใครยังไม่ได้ชม ​VDO ของทริปนี้ก็เปิดชมก่อนนะ … อย่าลืมเปิดเสียงและชมแบบ HD

 

อันที่จริงผมเคยเที่ยวสโลวีเนียมาแล้วครั้งนึง อันที่จริงเรียกว่าแวะดีกว่าเพราะพักแค่หนึ่งคืนเนื่องจากอยู่บนเส้นทางจากออสเตรียไปอิตาลีซึ่งเป็นจุดหมายหลัก  สำหรับทริปนี้ก็คล้ายๆ กันแต่มีเวลาให้กับสโลวีเนียมากขึ้นเป็น 3 วัน 2 คืนเพราะผมเดินทางลงที่เมือง Zagreb ของโครเอเชียซึ่งห่างจากสโลวีเนียไม่กี่กิโลฯ จึงคิดว่าน่าจะกลับไปเที่ยวประเทศนี้นัก 2-3 วันก่อนจะเที่ยวโครเอเชียซึ่งเป็นจุดหมายหลักของทริป … แต่หลังจากหาข้อมูลได้สักพักจึงรู้ตัวว่าคิดผิดถนัด ผมไม่ควรแวะเที่ยวประเทศนี้แบบสั้นๆ  น่าจะอยู่สัก 5-7 วันเพราะวิวประเทศนี้ถูกจริตผมจริงๆ   สโลวีเนียมีธรรมชาติในแบบที่ผมชอบไม่แพ้ออสเตรียหรือแถบบาวาเรียของเยอรมนีซึ่งเป็นสไตล์โปรดของผม แต่ในเมื่อจำนวนวันมีจำกัดจึงทำได้แค่พยายามสัมผัสประเทศนี้ให้ได้มากที่สุดโดยเฉพาะจุดที่คนไทยไม่ค่อยได้ไปเที่ยวกัน

จากสนามบินเมือง Zagreb ของโครเอเชีย  หลังจากรับรถเช่าแล้วเราก็มุ่งหน้าสู่สโลวีเนีย ที่ชายแดนต้องนำ passport ลงไป stamp ออกจากโครเอเชียและเข้าสโลวีเนีย (เพราะโครเอเชียไม่ได้อยู่ในเชงเก็นนั่นเอง)  และถัดจากด่านขาเข้าสโลวีเนียเล็กน้อยมี office เล็กๆ จำหน่ายสติกเกอร์สำหรับใช้ทางด่วนในประเทศ  แวะซื้อที่นี่ได้เลย 15 Euro ใช้ได้ 7 วัน จะได้เดินทางในสโลวีเนียได้อย่างสะดวก … เอาล่ะมาดูกันเลยว่าผมไปเที่ยวไหนบ้าง

Velika planina, Kamnik

ผมเคยเห็นภาพดอก Crocus สีม่วงบานเต็มพื้นบนภูเขาแห่งหนึ่งในประเทศสโลวีเนียและหมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องไปเยือนที่นี่สักครั้ง  สำหรับทริปนี้ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เจอเพราะปกติดอก Crocus จะบานตั้งแต่ช่วงปลายมีนา แต่ผมไปถึงปลายเมษาจึงไม่ใช่ช่วงดอกไม้บาน แต่บังเอิญว่าปีนี้อากาศบนภูเขาอุ่นช้ากว่าปกติ กว่าดอกไม้จะเริ่มบานก็กลางเดือนเมษาแล้ว  จึงยังมีดอกไม้ทยอยบานได้จนถึงปลายเดือน (ดอกไม้ชนิดนี้จะทยอยบานหลังจากที่หิมะเริ่มละลาย แต่อายุจะสั้นมากเพราะกลีบดอกค่อนข้างบอบบาง) … จุดที่ผมไปชมดอกไม้ชื่อว่า Velika planina ใกล้เมือง Kamnik ซึ่งห่างจาก Ljubljana เมืองหลวงของสโลวีเนียราว 1 ชั่วโมงเท่านั้น  การขึ้นไปบนยอดเขาสามารถไปได้หลายแบบ แต่ง่ายและสะดวกสุดคือไปขึ้นกระเช้าแล้วต่อด้วย chair lift

 

ขึ้นกระเช้ามาถึงด้านบนแล้วจะเลือกเดิน trekking ต่อไปยัง Veika planina หรือต่อ chair lift ก็ได้  สำหรับผมแน่นอนว่าเลือก chair lift

เนื่องจากผมไปถึงเกือบเที่ยง ดอกไม้เลยดูเฉาไปหน่อยและเหลือไม่เยอะอย่างที่อยากเจอ แต่บรรยากาศด้านบนก็สวยงามคุ้มค่ากับที่ขึ้นมา

ถ้าเป็นไปได้ควรค้างในบ้านไม้รูปทรงแปลกตาด้านบน Vilika planina หรือ Mala planina ซึ่งอยู่ใกล้กันอย่างน้อยหนึ่งคืน  เพื่อซึมซับบรรยากาศยามเช้าและยามเย็นบนยอดเขาครับ  แต่เสียดายทริปนี้ผมไม่ได้วางแผนแต่ต้นเลยทำได้แค่ขึ้นไปชมเพียงไม่กี่ชั่วโมง

Kamnik

เมืองเล็กๆ ไม่ไกลจากเมืองหลวงแต่บรรยากาศดีมาก ล้อมรอบด้วยธรรมชาติ  ผมแวะถ่ายภาพนิดหน่อยระหว่างทางไป Velika Planina เพราะไม่ได้อยู่ในแผน  แต่ถ้ามารอบหน้า รับรองว่าเมืองนี้จะถูกบรรจุไว้ในโปรแกรมแน่นอน

Bled

เมืองซึ่งเป็นที่ตั้งของทะเลสาบ bled อันโด่งดังของสโลวีเนีย  ซึ่งครั้งนี้เป็นรอบที่สองที่ได้มาเยือน bled … บรรยากาศที่นี่คึกคักมากเพราะผมมาตรงกับช่วงวันหยุดยาว และอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ชาวสโลวีเนียและนักท่องเที่ยวออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้งกัน

รอบทะเลสาบ bled จะหาที่จอดรถยากหน่อยนะครับ  ต้องยอมจ่าย 5 euro จอดในที่จอดรถใกล้ร้านอาหารริมทะเลสาบพิกัด 46.362533, 14.081458  แล้วเดินไปถ่ายภาพ  ซึ่งรอบทะเลสาบจะมีทางเดินอย่างดีไว้ให้ครับ

อีกจุดที่ต้องแวะไปคือจุดชมวิว Ojstrica ซึ่งทางขึ้นก็อยู่ใกล้ๆ กับที่จอดรถนั่นเอง  ใช้เวลาเดินราว 20 นาทีเหงื่อพอซึมก็ถึงแล้ว   หากมีเวลาเยอะอาจเดินไปอีกจุดที่ชื่อ Mala Osojnica ก็จะได้วิวอีกมุมนึงครับ

Vintgar Gorge

เป็นโตรกธารชื่อดังใกล้ทะเลสาบ ​Bled และห่างจากที่พักผมแค่นิดเดียว  ผมเดินทางไปที่นี่ตั้งแต่เช้า แต่ก็มิวายเจอรถของนักท่องเที่ยวหลายคันจอดอยู่แล้ว  เดินเข้าไปจนถึงที่ทำการก็แปลกใจนิดหน่อยที่มันปิด แอบคิดในใจว่าดีแฮะได้เข้าไปเที่ยวฟรีโดยไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม  … เราเดินเลียบลำธารใสที่น้ำไหลแรงเข้าไปด้านใน  ดอกไม้ป่าหลายชนิดกำลังออกดอกในช่วงฤดูใบไม้ผลิยิ่งทำให้สดชื่นตลอดทาง  แต่แล้วเราก็พบกับคำตอบว่าทำไมจึงเห็นคนเดินย้อนกลับเป็นระยะ ทั้งนี้ก็เพราะมีการกั้นไม่ให้เข้าไปต่อนั่นเอง  ผมจึงทำได้แค่เพียงถ่ายภาพตรงสะพานแรกที่มีโตรกธาร … หลังจากกลับมาจึงเข้าไปเช็คในเว็ปและพบว่า Vintgar gorge จะเปิดช่วงต้นฤดูร้อน หรือบางทีก็มีปิดซ่อมเส้นทาง ดังนั้นก่อนมาลองเช็คที่เวปเค้าก่อนนะครับ http://www.vintgar.si/?lang=en

Kranjska Gora

เป็นเมืองท่องเที่ยวของ Slovenia แต่ดูเหมือนคนไทยไม่ค่อยรู้จักมากนัก  สำหรับใครที่รักธรรมชาติ ชอบภูเขา ดอกไม้ ทะเลสาบ และลำธารใสๆ ที่นี่คือคำตอบเพราะมีทุกอย่างที่บอกมา และความสวยนั้นน้องๆ สวิสเซอร์แลนด์เลย

จุดแรกที่อยากแนะนำคือที่จอดรถริมทางก่อนถึงเมือง พิกัด 46.460436, 13.963464 ซึ่งอยู่ติดลำธารสีฟ้าใส  แค่วิวตรงนี้ก็ทำให้ใจละลายแล้ว

Zelenci

เป็นเขตอนุรักษณ์ธรรมชาติไม่ไกลจากตัวเมือง Kranjska Gora …  ต้องจอดรถไว้ริมถนนแล้วเดินผ่านป่าสนร่มๆ ไปราว 5 นาทีก็จะถึงบึงสีฟ้าใสที่มีฉากหลังเป็นภูเขาสูงยอดคลุมด้วยหิมะ … จะว่าไปบึงแห่งนี้ไม่ได้ใหญ่โตอะไรนะ แต่ด้วยองค์ประกอบทำให้มันดูดีมีเสน่ห์มา … ริมบึงมีสะพานไม้ให้ออกไปยืนถ่ายภาพเท่ห์ได้และยังมีหอคอยสังเกตการณ์ไว้ชมวิวจากมุมสูงด้วย

Jasna lake

ทะเลสาบชื่อดังของเมือง  Kranjska Gora … ขนาดไม่ได้ใหญ่โตเท่ากับ Bled แต่สีของน้ำกับบรรยากาศรอบๆ สวยมาก  โดยเฉพาะลำธารที่ไหลอยู่ข้างทะเลสาบนั้นเป็นสีฟ้าใสยังกะใส่สีลงไป ส่วนทะเลสาบนั้นเป็นสีเขียวมรกตคงเพราะสาหร่ายและตะไคร่ที่อยู่ใต้น้ำใสๆ นั่นเอง

 

เท่าที่ดูนักท่องเที่ยวเป็นฝรั่งมากกว่าเอเชีย คงเป็นเพราะยังไม่ได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวโด่งดังเหมือน Bled

จาก Jasna lake สามารถขับรถเลาะชายแดนสโลวีเนีย-อิตาลีผ่านเทือกเขาสูงของอุทยานแห่งชาติ Triglav ของประเทศสโลวีเนีย  วิวแถบนี้เป็นอีกจุดที่อยากแนะนำสายธรรมชาติเพราะสวยมากจริงๆ  ยอดเขาเป็นหินปูนคล้ายกับ ​Dolomite ทางตอนเหนือของอิตาลี  เดิมทีผมตั้งใจจะขับรถไปให้ถึงเมืองที่อยู่ถัดไป แต่เนื่องจากเพลินกับ Jasna lake นานไปหน่อยเลยต้องกลับรถกันที่จุดชมวิวด้านบนภูเขา  … โชคดีอีกอย่างคือเราไปในช่วงที่ดอกไม้ป่ากำลังบานพอดี เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นดอกไม้หลากหลายชนิดแย่งกันชูดอกขึ้นมาจากผืนดิน  ซึ่งถ้ามาช้ากว่านี้ไม่กี่วันก็จะไม่เห็นดอกบางชนิดแล้วเพราะดอกมันเล็กและบอบบางมากจริงๆ โดยเฉพาะ crocus ที่ค่อนข้างผิดหวังมาจาก Velika planina แต่มาเจอแบบเต็มๆ ก็ที่นี่เพียงแต่ส่วนใหญ่เป็นสีขาวแทนที่จะเป็นสีม่วง

Lake Bohinj 

อีกหนึ่งทะเลสาบใหญ่ห่าง Bled ออกไปราว 45 นาที  น้ำที่นี่สีเขียวเข้มและใสสะอาดไม่ต่างกับทะเลสาบอื่นๆ ของสโลวีเนีย  มี Landmark เป็นโบสถ์ตั้งเดินเป็นสง่าอยู่ริมทะเลสาบ … ไม่เพียงเฉพาะตัวทะเลสาบเท่านั้น แต่เส้นทางมายังทะเลสาบแห่งนี้ยังสวยมากเช่นกัน

Ljubljana 

เมืองหลวงของสโลวีเนีย … เป็นเมืองเก่าที่ผมว่าสวยหวานดี ไม่ดูเคร่งครึมเหมือนหลายๆ เมืองในยุโรป  ดูๆ ไปก็มีความคล้าย Cesky Krumlov ของ Czech อยู่ประมาณนึง  แถมมีแม่น้ำไหลผ่านกลางเมืองเหมือนกันด้วย … บรรดาตึกเก่าและสถานที่สำคัญก็อยู่รายรอบสองฝั่งแม่น้ำนั่นเอง สามารถเดินเที่ยวแบบเก็บบรรยากาศได้โดยใช้เวลาสักครึ่งวัน  แต่ถ้าจะเก็บรายละเอียดเวลาเท่านี้คงไม่พอ

อันที่จริงสโลวีเนียยังมีเมืองสวยๆ อีกมากทั้งเมืองเก่า, เมืองสำหรับทำกิจกรรมทางน้ำ หรือแม้กระทั่งเมืองริมทะเลสวยๆ   แต่เนื่องจากเวลาผมมีจำกัดอย่างที่เล่าตอนต้นจึงเที่ยวได้เพียงเท่านี้  … โดยสรุปต้องบอกว่าช่วงเวลา 3 วันในสโลวีเนียผมมีความสุขมากกับวิวและการถ่ายภาพ แม้สโลวีเนียจะไม่ใช่จุดหมายหลักของทริปแต่สารภาพเลยว่าผมชอบที่นี่มากกว่าโครเอเชียด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะผมรักภูเขา ชอบดอกไม้ สดชื่นทุกครั้งเมื่อเห็นลำธารและทะเลสาบ ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจที่ผมจะตกหลงรักประเทศนี้เข้าอย่างจัง

รีวิวทั้งหมดของทริปนี้

ขับรถเที่ยวโครเอเชีย, สโลวีเนีย, บอสเนียฯ, มอนเตเนโกร ฉบับโหมโรง … ที่มาที่ไป, การเตรียมตัว, แผนการเดินทางและงบประมาณ

ทริปขับรถเที่ยวโครเอเชีย, สโลวีเนีย,​ บอสเนียฯ, มอนเตเนโกร  – ตอนที่ 2 ถึงเวลา “โครเอเชีย”

ทริปขับรถเที่ยวโครเอเชีย, สโลวีเนีย, บอสเนียฯ, มอนเตเนโกร – ตอนที่ 3 บอสเนียฯ-มอนเตเนโกร ประเทศนอกสายตา

ทริปขับรถเที่ยวโครเอเชีย, สโลวีเนีย, บอสเนียฯ, มอนเตเนโกร – ตอนที่ 3 บอสเนียฯ-มอนเตเนโกร ประเทศนอกสายตา