Select Page

เที่ยว Sun Moon Lake กับ Hehuanshan ในไต้หวันด้วยรถเช่าพร้อมคนขับ

ผมเที่ยวไต้หวันมา 3 ครั้งแล้วแต่ยังมีสถานที่สองสามแห่งที่ยังคาใจอยู่ อยากไปแต่ยังไม่มีโอกาสซักที  พอทางการท่องเที่ยวของไต้หวันเชิญไปสัมผัสเมืองอี้หลาน  ผมเลยไม่ปฏิเสธและเดินทางมาถึงก่อนกำหนดเพื่อเที่ยวเองไปยังจุดหมายที่อยู่ในลิสต์  นั่นคือ Sun Moon Lake และ Hehuanshan

การเดินทางไปเที่ยวสถานที่ทั้งสองแห่ง แม้จะใช้รถสาธารณะได้แต่ก็ไม่ค่อยสะดวกนัก และสำหรับคนชอบถ่ายภาพแบบผม ความยืดหยุ่นในการเดินทางนั้นสำคัญอย่างมาก  ดังนั้นเวลาไปเที่ยวต่างประเทศผมมักเลือกที่จะเช่ารถขับเอง  แต่สำหรับไต้หวันใบขับขี่สากลจากไทยไม่สามารถนำมาใช้ที่นี่ได้ ผมจึงเลือกใช้บริการรถเช่าพร้อมคนขับซึ่งเป็นคนไทยในไต้หวันชื่อคุณบอล (รายละเอียดการติดต่ออยู่ท้ายรีวิว) … ที่เลือกคุณบอลเพราะนอกจากคุยภาษาเดียวกันแล้ว คุณบอลยังชอบถ่ายภาพจึงเข้าใจหัวอกช่างภาพดี แถมรู้ location เด็ดๆ สำหรับถ่ายอีกด้วย  ทำให้ทุกอย่างลงตัว

เมื่อถึงวันที่นัดหมายคุณบอลก็มารับที่หน้าโรงแรมในไทเป  ทริปนี้คุณบอลนำรถคันใหญ่ (Volkswagen) แบบ 9 ที่นั่งมารับ จึงไม่ต้องถามเรื่องความสบายเพราะพื้นที่เยอะแยะ นั่งไปนอนไปยังได้เลย … จากไทเปคุณบอลใช้ทางด่วนมุ่งลงใต้โดยจุดหมายวันนี้คือ Sun Moon Lake ซึ่งอยู่ในเขต Nantou ของไต้หวัน 

ข้อดีของการเช่ารถคือระหว่างทางเราสามารถแวะเที่ยวได้ด้วย และ check point แรกของวันนี้คือเมืองต้าหู (Dahu) ซึ่งเป็นแหล่งปลูกสตรอเบอร์รี่ของไต้หวัน และแน่นอนว่ามีผลิตภัณฑ์จากสตรอเบอร์รี่มากมาย ไม่ว่าจะเบสิคอย่างไวน์ ขนมโมจิ หรือขนมทานเล่นอื่นๆ … advance มาหน่อยก็เป็น pop corn รสสตรอฯ … แต่ที่เด็ดมากๆ ก็คือไส้กรอกรสสตรอเบอร์รี่ แอบงงเหมือนกันว่าคิดได้ไง (ไม่กล้าชิม 555) … ช่วงนี้น่าจเป็นปลายๆ ฤดูกาลแล้ว ผลในแปลงก็เลยไม่ดกสักเท่าไหร่ หากใครมาช่วงต้นปีน่าจะเจอแบบเต็มๆ

ป.ล. ตรงร้านด้านหน้าศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ มีร้านขายของฝาก แนะนำขนมเปี๊ยไส้รวม (หมูหยอง+ไข่+ฯลฯ) อร่อยมากเลย หน้าตาของห่อขนมเป็นแบบนี้

จุดแวะถัดมาคือสวนดอกไม้ Zhongshe Flower Market เมืองไทจง (ใน google map ใช้ชื่อ Zhongshe Flower Market) … ตอนไปถึงเห็นด้านหน้าก็เหมือนร้านขายดอกไม้ธรรมดาไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่พอเดินเข้าไปด้านในนี่สิ มีสวนดอกไม้กลางแจ้งขนาดย่อมที่สวยและน่ารักมาก แต่ละฤดูทางสวนก็จะเอาดอกไม้มาสลับผลัดเปลี่ยนกันให้ถ่ายภาพคู่กับ prop น่ารักมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเปียโน, ไวโอลิน, ตุ๊กตา, กำแพงดอกไม้, น้ำพุ, รูปปั้น, กังหันลม โอ้ย! เยอะแยะไปหมด … แม้สวนจะไม่ใหญ่นักแต่ถ้าให้เดินถ่ายรูปแบบทั่วๆ ก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมงอยู่นะเพราะเค้าจัดมุมถ่ายภาพไว้ให้เยอะจริงๆ

ใครไปไทจงก็ลอง search หาชื่อดู ผมไปกับรถเช่าพร้อมคนขับก็เลยสะดวกหน่อย แต่ถ้านั่งรถประจำทางก็จะมีสาย 6606 ยังไงลองไปหาตารางรอบรถได้จาก google นะ

ป.ล. ถ้าอยากเจอสวนทิวลิปแนะนำให้ไปตอนต้นๆ ปีราวม.ค.-ก.พ.

สำหรับมื้อเที่ยงวันนี้  คุณบอลพาไปทานที่ Summit resort  ตั้งอยู่ในเมืองไทจง นอกจากสถานที่ถูกสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรปให้ดูคล้ายปราสาทและป้อมปราการแล้วยังจัดสวนและปลูกดอกไม้ไว้อย่างสวยงามด้วย มีมุมถ่ายภาพเก๋ๆ เยอะมากจริงๆ

ที่นี่มีค่าเข้าชมคนละ 250 NTD แต่สามารถนำคูปองไปเป็นส่วนลดอาหารด้านในได้ 100 NTD ก็ถือว่าคุ้มค่านะครับ … ใครมีโอกาสไปไทจงก็ลองแวะไปที่ Taichung Summit Resort ดู

เสร็จจากมื้อเที่ยงเราจึงเดินทางต่อและถึง Sun Moon Lake ช่วงเย็นซึ่งอากาศไม่ค่อยดีเท่าไหร่   สำหรับทะเลสาบแห่งนี้ ผมได้ยินชื่อคู่กับไต้หวันมานานแล้วล่ะ แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้มาซะที และขอสารภาพว่าก่อนหน้านี้รู้สึกเฉยๆ เพราะคิดว่าคงเหมือนบรรยากาศตามเขื่อนบ้านเรา … บังเอิญว่าจุดหมายทริปนี้อยู่ที่ He Huan Shan และเส้นทางสามารถแวะที่นี่ได้ก็เลยถือโอกาสค้างคืนริมทะเลสาบ 1 คืน

ที่พักเป็นโรงแรมเล็กๆ ชื่อ Sun Fog Hotel ทำเลเงียบสงบห่างจากย่านพลุกพล่านออกมาหน่อย ห้องพักหันหน้าเค้าหาทะเลสาบวิวสวยมาก ราคาถือว่าไม่แพงรวมอาหารเช้าแล้วสองพันต้นๆ เท่านั้น

วันนี้ตั้งนาฬิกาปลุกแต่เช้า เพื่อเดินไปถ่ายภาพที่ท่าเรือติดกับโรงแรม … เป็นวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส น้ำในทะเลสาบค่อนข้างราบเรียบ อากาศเย็นกำลังสบาย … เมื่อพระอาทิตย์ค่อยๆ เคลื่อนตัวขึ้น Sun Moon Lake ก็ค่อยๆ ฉายแววของแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังออกมา … ใช่แล้ว น้ำในทะเลสาบก็ไม่ได้สวยไปกว่าเขื่อนในบ้านเรานัก แต่ทิวภูเขาซ้อนกันหลายชั้นด้านหลังต่างหากที่ทำให้บรรยากาศของที่นี่โรแมนติกเหลือเกิน งานนี้เดินวนถ่ายภาพไปมาอยู่เป็นชั่วโมงทีเดียว

อาหารเช้าที่ห้องอาหารติดทะเลสาบของโรงแรม อาหารถือว่าเบสิคทั่วไปแต่วิวนี่เกินราคาไปเยอะ

ลิงค์ไปจองโรงแรม Sun Fog Hotel  -> http://bit.ly/2UODwGQ

หลังจากเช็คเอ้าท์ก็ขับรถตระเวนถ่ายภาพรอบๆ ทะเลสาบนิดหน่อย และก็โชคดีมากที่คุณบอลผู้นำเที่ยวของผมเช็คเจอว่าซากุระตรงสถานีเคเบิ้ลคาร์กำลังบานพอดี ก็เลยได้ไปเก็บภาพหวานๆ ของดอกซากุระมาเป็นของแถม

วันนี้เราเดินทางไต่ระดับความสูงของภูเขาขึ้นไปยัง Cingjing ที่นักท่องเที่ยวชาวไทยรู้จักกันดี  โดยผมจะพักค้างคืนที่นั่น  แต่จุดหมายหลักจริงๆ คือ Hehuanshan ยอดเขาสูงที่อยู่เลย Cingjing ขึ้นไปอีกราว 23 กม.

ผมแวะทานข้าวที่ร้าน Movenpick บน Cingjing จากนั้นหากาแฟดื่มชิลๆ ที่ร้าน Starbucks ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม หลังจากนั้นจึงเข้า check-in ที่โรงแรม Ailiga Travel Villa

อาหารสไตล์ตะวันตกที่ร้าน Movenpick อร่อยดีครับ ราคาก็จะสูงหน่อยแต่ไม่ถึงกับแพงเวอร์

โรงแรมนี้มีที่พักหลายแบบ  ผมเลือกพักแบบที่เป็นห้องใหญ่ซึ่งกว้างขวางดี แม้สภาพห้องโดยรวมอาจดูล้าสมัยไปหน่อยแต่บรรยากาศแบบไม้ๆ ก็เข้ากันดีกับวิวภูเขาของ Cingjing  ตอนจองคาดหวังว่าวิวตรงระเบียงหลังห้องจะสวยเหมือนในรูป แต่ขอจริงมองไม่เห็นวิวเท่าไหร่เพราะต้นไม้ที่อยู่หลังห้องมันสูงจนบังวิวเกือบหมด

แม้จะผิดหวังจากวิวหลังห้องพัก แต่วิวตรงลานระเบียงหน้าห้องอาหารก็ถือว่าสวยอยู่นะ

สำหรับโรงแรมแห่งนี้ ที่ผมสะดุดตาคือห้องพักอีกแบบที่ทำจากท่อซีเมนต์ขนาดใหญ่ แนวเดียวกับ capsule hotel แต่ขนาดใหญ่กว่า  มีห้องน้ำภายในเรียบร้อย ตั้งอยู่ท่ามกลางต้นสนและสวน ถ้าใครชอบแบบเก๋ๆ ก็แนะนำห้องพักแบบนี้เลย 

โรงแรมนี้แปลกกว่าทุกแห่งคือเค้าจะรวมทั้งอาหารเช้าและอาหารค่ำด้วย  แม้เมนูจะไม่ได้เลิศหรูอลังการแต่ก็ช่วยให้ประหยัดงบไปได้อย่างดี

สำหรับผู้ที่สนใจ ลองดูข้อมูลเพิ่มเติมและจองห้องได้ที่  http://bit.ly/2X3Ke9a

ช่วงบ่ายแก่ๆ ผมออกจากโรงแรมผ่าน Cingjing Farm ชื่อดัง แต่ไม่ได้แวะเพราะหญ้าช่วงนี้ดูแห้งๆ ดอกไม้ก็มีน้อยจึงเลยขึ้นไปบน Hehuanshan เพื่อชมพระอาทิตย์ตกเลย

Hehuanshan ยอดเขาสูง 3 พันกว่าเมตรในเขตเมืองหนันโถวที่ผมหมายมั่นปั้นมือตั้งแต่มาไต้หวันครั้งก่อนแต่พลาดไปเพราะเกิดฝนตกหนักจนมีหินถนนปิดทางจึงต้องพับแผนไป

ระยะทางจาก ​Cinging ราว 20 ก.ม.เศษแต่ต้องขับรถก่า 40 นาทีเพราะเส้นทางคดเคี้ยวและมีการจำกัดความเร็วที่ 30 ก.ม./ช.ม. ถนนถือว่าสะดวกสบาย มีปรับปรุงซ่อมแซมอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้ติดขัดอะไร … ช่วงก่อนถึงจุดสูงสุดของถนนจะมีมุมที่สามารถจอดถ่ายภาพได้เป็นระยะล้วนแต่สวยทั้งนั้น ซึ่งคุณบอลรู้มุมถ่ายภาพเป็นอย่างดีก็เลยทำให้ไม่เสียเวลา สามารถนำไปยังจุดสวยๆ ได้ทันที

หลังจากเก็บภาพจากจุดต่างๆ แล้วผมเลือกเก็บแสงพระอาทิตย์ตกใกล้จุดสูงสุดของถนน โดยสามารถจอดรถไว้ริมทางแล้วเดินขึ้นไปนิดเดียวก็จะเจอกับมุมเปิดฝั่งตะวันตกที่เห็นวิวภูเขาสลับซับซ้อนสวยงามมาก และผมก็รอเก็บภาพตรงนี้จดพระอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขาไป

ถ้าโชคดีมีโอกาสเจอทะเลหมอกช่วงเย็นบนยอดเขาแห่งนี้ด้วยนะ สียดายที่วันนี้ได้เห็นเพียงแสงสวยๆ เท่านั้นไร้ซึ่งเงาของทะเลหมอก แต่เพียงแค่นี้ก็ทำให้มีความสุขเกินบรรยายแล้ว

คืนนั้นที่ Cingjing เพื่อนชาวไต้หวันชวนผมไปลองทานอาหารมื้อค่ำแบบ buffet ที่ Florence Resort Villa และถือโอกาสชมห้องพักของเพื่อน … ผมว่าอาหารค่ำคุ้มราคาดีนะ ส่วนห้องพักก็กว้างมาก ออกแบบสไตล์ยุโรปแบบแฟนซีนิดๆ

สำหรับอาหารจะเป็นแบบสั่ง main dish เป็น a-la-carte แล้วเลือกทานอย่างอื่นใน line buffet ได้ครับราคาผมว่าสมเหตุสมผลนะมีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงพันกลางๆ ทานได้จนอิ่มเลย (main dish บางตัวไม่รวม buffet)

ทานเสร็จเพื่อนเอาช้อคโกเลตมาฝากอีก เป็นยี่ห้องท้องถิ่นชื่อว่า Nina ซึ่งโรงงานช้อคโกเลตแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตามชื่อของลูกสาวซึ่งหลงใหลช้อคโกเลตมาก จนเป็นที่มาของการสร้างโรงงานและกำลังเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ให้คนได้เข้าชมด้วย หากสนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nina-choc.com/en/

ทานเสร็จก็เลยถือโอกาสเดินไปดูห้องพัก …. กว้างมาาาาก ดีไซน์แนวหลุย

สนใจที่พักสามารถจองได้ที่ http://bit.ly/2IyechP

เช้าวันรุ่งขึ้นผมตื่นมาเก็บภาพบรรยากาศแต่เช้า และเดินเลาะไปตามถนนเล็กๆ จนเจอร้านกาแฟในรีสอร์ทแห่งนึงซึ่งวิวดีและน่ารักมาก  คิดว่าถ้ามีโอกาสคราวหน้าจะมาพักที่นี่สักครั้ง

จาก Cingjing ผมเดินทางกลับไปยังไทเป  นับเป็นอีกทริปในไต้หวันที่ประทับใจ เพราะได้ตามเก็บ wish list สมใจ  แต่ไต้หวันยังมีอะให้ค้นหาอีกเยอะ คงต้องหาโอกาสมาเที่ยวอีกในไม่ช้านี้ J 

หลังจากมาไต้หวันเป็นครั้งที่ 4 ได้ข้อสรุปว่าการเที่ยวไต้หวันสำหรับคนที่รักธรรมชาติ แนะนำอย่างยิ่งเลยว่าต้องเช่ารถพร้อมคนขับนะ เพราะสามารถเข้าถึงจุดที่รถสาธารณะเข้าไม่ถึงหรือสามารถไปได้สะดวกและยื่นหยุ่นกว่า … ซึ่งจะเลือกเช่า taxi ท้องถิ่นก็ได้แต่อาจติดปัญหาเรื่องการสื่อสาร เลยขอแนะนำผู้ให้บริการรถเช่าพร้อมคนขับซึ่งเป็นคนไทยในไต้หวันชื่อคุณบอลครับ คุณบอลมีรถ 3 คัน (แต่ละคันจุได้ 4-9 คน)ให้บริการพาเที่ยวทั้งในไทเป, เมืองรอบๆ ไทไปไปจนถึงจุดท่องเที่ยวไกลๆ อย่าง Sun Moon Lake, Cinging, Alishan ฯลฯ

คุณบอลเป็นคนใจเย็นรู้จุดถ่ายภาพเป็นอย่างดี ทำให้เที่ยวด้วยและสบายใจเพราะบางทีคนบ้าถ่ายภาพอย่างเราก็จะใช้เวลาในแต่ละที่มากกว่าชาวบ้านและต้องหยุดรถบ่อยเมื่อเจอมุมเด็ดๆ หากคนขับรถไม่เข้าใจอาจพาลทำให้เค้าหงุดหงิดได้

ทริปนี้เป็นครั้งที่สองแล้วที่ได้คุณบอลมาให้บริการ ราคาค่าบริการตามในภาพด้านล่าง ใครสนใจก็สามารถ inbox ไปได้ที่เพจ Family Travel เที่ยวไต้หวัน หรือแอดไลน์ ID nobernnobell ของคุณบอลได้เลย