มาสำรวจกันหน่อย … ใครบ้างที่ไปมาแล้วเกินครึ่งกับ 7 เส้นทางท่องเที่ยวและถ่ายภาพในสิงคโปร์ต่อไปนี้

1. เส้นทางชมแสงไฟราตรีรอบ ๆ Marina Bay

สำหรับช่างภาพแบบผม เมื่อมาเที่ยวสิงค์สิงคโปร์  จุดแรกที่นึกถึงและอยากไปถ่ายภาพก็คือรอบ ๆ Marina Bay ซึ่งจะว่าไปแล้วแต่ละด้านของพื้นที่รอบ ๆ  Marina Bay นั้นก็ให้มุมมองที่สวยไปคนละแบบ  หากอยากได้ตึก Marina Bay Sands ให้โดดเด่นเป็นสง่า  มุมถ่ายภาพก็เริ่มตั้งแต่ท่าน้ำใกล้ ๆ Merlion ไล่ไปจนถึงบนสะพาน Helix  … ทั้งนี้จะมีการแสดงแสงสีเสียง Wonder Full Show ที่ Marina Bay ทุกคืน คืนละ 2 รอบ โดยแสง laser จะถูกยิงลงมาจาก Marina Bay Sands เป็นหลัก  ดังนั้นควรวางแผนให้ดีว่าเมื่อถึงช่วงเวลาที่แสดงแสง สี แล้วเราจะอยู่ในจุดที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพพอดี  โดยการแสดงจะเริ่มที่ 2 ทุ่มกับ 3 ทุ่มครึ่ง  โดยเสริมรอบ 5 ทุ่มในคืนวันศุกร์และเสาร์  (รอบละ 15 นาที และสามารถชมได้ฟรีครับ)  อย่างไรก็ตามโชว์น้ำพุและเสียงที่บรรยายนั้น  สามารถมองเห็นและได้ยินที่ท่าน้ำฝั่ง Marina Bay Sands เท่านั้น  หากอยากได้ภาพของน้ำพุด้วย และ Marina Bay Sands ด้วย ก็คงต้องชมการแสดงทั้งสองรอบครับ

มาเริ่มดูมุมถ่ายภาพกันเลยดีกว่า

จุดแรก สะพาน Helix ความโดดเด่นอยู่ตรงที่สีสันของไฟที่พันอยู่รอบ ๆ โครงสร้างสะพาน ซึ่งนำสายตาไปยังตึก Marina Bay Sands.. ทั้งนี้บนสะพานมีจุดที่ทำเป็นระเบียงยื่นออกไปให้ถ่ายภาพด้วย  นับเป็นอีกหนึ่งจุดสวยที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ … ไฟประดับบนสะพานแห่งนี้จะเปลี่ยนทุกวันนะครับ บางวันสีน้ำเงิน-ฟ้า, บางวันสีชมพู-ม่วง  และบางวันก็สีเหลือง-ส้ม …​ถ้าจะให้ได้ภาพครบทุกสีก็ต้องไปกันหลายรอบล่ะครับ 555

จุดถัดมาคือเวทีกลางแจ้งหน้าอาคาร Esplanade Theatres หรือที่คนไทยเราชอบเรียกว่าตึกทุเรียนครับ รวมถึงทางเดินริมน้ำที่อยู่ใกล้ ๆ กัน  เวทีนี้จะอยู่ริมน้ำและมีที่นั่งทำเลดีสำหรับการชม Wonder Full Show รวมถึงถ่ายภาพด้วยครับ

มุมสวย ๆ อยู่หลังเวทีนี้แหละครับ ระหว่างรอการแสดงแสง สี นั่งฟังเพลงเพลิน ๆ ก่อนก็ได้ครับ น่าจะมีการจัดงานแสดงดนตรีในทุกช่วงวันหยุด

หันไปฝั่งตรงข้ามก็เจอกับวิวสวย ๆ ของ Marina Bay Sands และ ArtScience Meseum

เยื้องไปด้านขวาเป็นย่านการเงินที่สำคัญ เต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า

จุดที่ต่อมาคือ บริเวณ Merlion นั่นเอง  จากจุดนี้สามารถมองเห็นได้ทั้ง Singapore Flyer, Marina Bay Sands และตึก Esplanade ครับ   อยากได้มุมไหนก็แพนกล้องเอาตามใจชอบ  เสียดายที่ช่วงนี้มีการก่อนสร้างสะพานคนเดินข้าม ทำให้บางครั้งอาจมีเครนกับปั้นจั่นมาบดบังทัศนียภาพไปบ้าง  … ใกล้ ๆ กันกับ Merlion สามารถถ่ายภาพบนสะพานกลับไปยัง Esplanade ก็ถือเป็นอีกมุมที่สวยงาม

บรรยากาศที่ Merlion ยามค่ำคืน

ถ่ายภาพย้อนไปยังตึก Esplanade

ส่วนภาพนี้เป็น Esplanade  จากบนสะพาน  มองเห็น Singapore Flyer อยู่ไกล ๆ

ที่ท่าน้ำใกล้ Merlion เป็นจุดหนึ่งที่เหมาะสำหรับการชม Wonder Full Show แต่ต้องระมัดระวันคนมากระแทกหรือบังกล้องเพราะที่นั่นคนจะเยอะมากทุกคืน

จริง ๆ แล้วมีอีกจุดก็คือตรงท่าน้ำด้านหน้า Marina Bay Sands ซึ่งเป็นจุดที่สามารถเห็น Water show  ได้นั่นเอง แต่ผมมีเวลาไม่พอจึงไม่มีภาพจากจุดนี้มาฝากครับ … ผมกะระยะเวลาคร่าว ๆ การเดินระหว่างแต่ละจุดใช้เวลาราว 15 นาทีไม่รวมการแวะถ่ายภาพนะครับ J

2. เส้นทางชมสวน Gardens by the Bay และมุมพักผ่อนของชาว Singapore ที่ Marina Barrage

Gardens by the Bay เป็นอีกหนึ่งสถานที่น่าสนใจของ Singapore ที่อยู่ใกล้ ๆ Marina Bay แต่ผมเห็นว่าน่าจะแยกออกมาเป็นคนละเส้นทาง  เพราะการเที่ยวชมส่วนนี้ให้ครบถ้วนนั้นน่าจะใช้เวลาไม่น้อยเลย  นอกจากนี้ที่นี่ก็มีการแสดงแสงสีช่วงค่ำเช่นกัน  จึงน่าจะเป็นอีกหนึ่งวันที่ได้ชมความสวยงามของการแสดงโดยไม่ต้องตัดที่ใดที่หนึ่งออกไป

จุดแรกที่อยากแนะนำคือ Bay South ซึ่งเป็นสวนพฤษศาสตร์ริมน้ำขนาดใหญ่  มี Supertree Grove สวนสวยแนวตั้งความสูงเท่าตึก 16 ชั้นเป็นพระเอก  แนะนำว่าให้มาแวะชมที่นี่ในช่วงกลางวันแล้วกลับมาดูแสงสีอีกครั้งตอนค่ำครับ   หากใครต้องการได้ภาพในมุมสูงก็สามารถขึ้นไปเดินชมวิวบน OCBC Skyway ซึ่งเชื่อมต่อ Supertree หลาย ๆ ต้นเข้าด้วยกันได้ครับ โดยสามารถซื้อตั๋วขึ้นชมได้ที่ด้านล่างของ Supertree นั่นเอง

ความยิ่งใหญ่ของ Supertree Grove … ทางเดินด้านบนที่เห็นคือ OCBC Skyway

ในช่วงค่ำของทุกวัน จะมีการแสดงที่ชื่อว่า OCBC Light and Sound Show ที่ Bay South Garden  วันละ 2 รอบในเวลา 19:45 และ 20:45 (รอบละ 15 นาที  และชมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย) ถ้าให้บอกง่าย ๆ การแสดงนี้จะอยู่ที่  Supertree ทั้ง 18 ต้นนั่นเอง   ซึ่งก่อนเวลาแสดงเล็กน้อยก็จะเห็นนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาจับจองพื้นที่กันใต้ต้น Supertree เต็มไปหมด

ขอตัดให้ชมภาพตอนค่ำเลยนะครับ จะได้เห็นว่าบรรยากาศต่างกันยังไง

ทางขึ้น OCBC Skyway

เดินขึ้นไปชมบนสวนด้านบนจะเห็นอีกมุมหนึ่งที่สวยงามเช่นกัน คนไม่เยอะด้วย แต่อาจมีต้นไม้บังเยอะหน่อย

ลองชมภาพมุมอื่นๆ  บริเวณใกล้เคียงที่ถ่ายจาก Gardens by the Bay – Bay south บ้างครับ  มัมุมสวย ๆ เต็มไปหมด

นอกจาก Supertree แล้วยังมีอาคารในร่มอีกสองแห่งที่ไม่ควรพลาดได้แก่ Cloud forest ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงพันธุ์พืชในเขตป่าดิบชื้น  เมื่อเดินเข้าไปก็จะได้สัมผัสกับความชุ่มชื่นได้ทันที  ภายในโดมมีภูเขาจำลองสูง 35 เมตรที่ถูกประดับด้วยพืชนา ๆ ชนิดกับม่านน้ำตกสูงที่ให้ความรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในป่าเลยทีเดียว … ความพิเศษของที่นี่คือต้นไม้จะเกาะอยู่บนภูเขาในร่มและมีเส้นทางเดินชมแบบเพลิน ๆ นอกจากนี้ยังมีพันธุ์ไม้ที่เติบโตบนที่สูงเทียมเมฆมาจัดแสดงให้ชมกันอย่างใกล้ชิดด้วย นับเป็นสวนแนวตั้งที่ดูอลังการมากจริง ๆ

Cloud forest

ต่อมาที่อยากแนะนำคือ Flower dome ที่เป็นเรือนกระจกขนาดใหญ่  อยู่คู่กับ Cloud Forest จัดแสดงพรรณไม้เขตรร้อนชื้น  โดยมีดอกไม้นานาพันธุ์หมุนเวียนมาแสดงตามฤดูกาลหรือเทศกาลต่าง ๆ … อย่างช่วงที่ผมไปก็เป็นธีมสวนอินเดียที่ใช้ชื่อว่า Indian Safari Floral ครับ

อีกจุดหนึ่งที่คนไทยอาจไม่คุ้นเคยนักคือ Marina Barrage ที่อยู่ถัดจาก Gardens by the Bay ไปไม่ไกล  สามารถเดินเลาะไปตามเส้นทางเดินริมน้ำไปได้โดยใช้เวลาราว 10-15 นาที  ที่นี่เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ของสิงคโปร์ โดยมีการปรับภูมิทัศน์บนส่วนหลังคาอาคารเป็นสวนหญ้าเขียว  ให้ชาวสิงคโปร์ได้มาพักผ่อนหย่อนใจ  ทำให้ได้เห็นอีกมุมนึงของชาวสิงคโปร์ที่อาจแตกต่างไปจากภาพของคนเคร่งเครียดเร่งรีบแบบที่เราคุ้นตา  เพราะที่นี่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม, เสียงหัวเราะและภาพความอบอุ่นของเพื่อนและครอบครัวไม่แตกต่างจากบ้านเราเลย

นอกจากบรรยากาศวิถีชีวิตอีกด้านของคนที่นี่แล้ว  บนสันเขื่อนยังเป็นมุมถ่ายภาพอย่างดีสำหรับผู้ที่ต้องการภาพของตึก Marina bay Sands ไปพร้อม ๆ กับ Supertree และ Singapore Flyer อีกด้วยโดยเฉพาะในยามค่ำ

สันเขื่อนและวิวจากสันเขื่อน

วิวในยามค่ำก็สวยงามไม่แพ้กัน

นอกจากนี้ยังมีส่วนนิทรรศการที่จัดแสดงเรื่องการจัดการน้ำของเขื่อนด้วย

3. เส้นทางล่องเรือชมวิวริมแม่น้ำยามค่ำกับ Singapore River Cruise

ชมวิวสวย ๆ ของสิงคโปร์จากบนฝั่งแล้ว ขอแนะนำอีกทางเลือกในการดื่มด่ำบรรยากาศยามค่ำ นั่นคือการล่องเรือชมวิวริมสองฝั่งแม่น้ำ Singapore  โดยเริ่มตั้งแต่  Clarke Quay ด้วยเรือแนวโบราณที่ถูกดัดแปลงให้ใช้แบตเตอร์รีเพื่อลดมลพิษทางเสียงและอากาศ  ทั้งนี้ช่างภาพทั้งหลายควรรีบจับจองพื้นที่ท้ายเรือเพื่อให้สามารถเก็บภาพได้อย่างสะดวก

แม้ว่าเรือดังกล่าวจะมีบริการตลอดวัน แต่ผมอยากแนะนำให้เลือกใช้บริการในช่วงค่ำ เพราะบรรดาตึกต่าง ๆ จะพร้อมใจกันเปิดไฟสวยงามมาก ๆ … ช่างภาพส่วนใหญ่คงรู้ดีกว่าการบันทึกภาพแสงไฟยามราตรีโดยไม่มีขาตั้งกล้องนั้นไม่ง่ายเลยที่จะได้ภาพดี ๆ โดยเฉพาะเมื่อต้องถ่ายจากบนเรือที่แล่นไปเรื่อย ๆ  แต่โชคดีที่เทคโนโลยีของกล้องสมัยนี้ทำให้ได้ภาพที่สวยใช้งานได้เลยทีเดียว

เส้นทางล่องเรือของผมนั้นเริ่มจาก Clarke Quay ผ่านจุดสำคัญต่าง ๆ อาทิ Boat quay, People of the river, สะพาน Elgin, สะพาน Cavanagh, โรงแรม Fullerton ที่สวยงามโดดเด่นและมีตึกสูงระฟ้าเป็น background, สะพาน Anderson จากนั้นก็จะเริ่มเข้าสู่อ่าว Marina ที่รายล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญต่าง ๆ ได้แก่ตึก Esplanade, Merlion, Marina Bay Sands, Ar Science Museum จากนั้นเรือจะนำเราผ่าน The Float Stadium (สนามกีฬาลอยน้ำ) ลอดสะพาน Helix ไปเทียบท่า  Boat Quay ใกล้ๆ  กับ Singpore Flyer ซึ่งจะสามารถมองเห็น Gardens by the Bay ที่ฝั่งตรงข้าม … จากจุดนี้เรือจะวนกลับไปส่งเรายัง Clarke Quay นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวทางน้ำที่เป็น Highly Recommend จริง

ให้ข้อมูลไปเยอะแล้ว ลองมาชมภาพกันดีกว่าครับ ทั้งหมดถ่ายด้วย  Nikon D610 + Lens 14-24 f2.8 Nano

บรรยกาศ Clarke Quay แหล่งร้านอาหารยามค่ำใกล้ ๆ ท่าเรือ

วิวยามค่ำของแม่น้ำสิงคโปร์ใกล้ ๆ ท่าเรือ มีร้านอาหารชื่อดังมากมาย

เริ่มออกเดินทางกันเลยครับ

สะพาน Elgin

ตึกสูงย่านธุรกิจสำคัญ

โรงแรม Fullerton

สะพาน Anderson

อาคาร Esplanade

ทิวทัศน์บริเวณอ่าว

Merlion

ผ่านหน้า Marina Bay Sands

ลอดสะพาน Helix

ส้ินสุดที่ท่าเรือใกล้ Singapore Flyer จากนั้นเรือจะวนกลับให้ได้ไปถ่ายภาพกันอีกรอบ

4. เส้นทางเดินชมย่านมรดกเมืองและประติมากรรมริมน้ำ

จุดน่าสนใจบนเส้นทางนี้อยู่ไม่ไกลจาก Marina Bay ตั้งอยู่สองริมฝั่งแม่น้ำนั่นเอง … โดยย่านมรดกเมืองหรือที่เรียกว่า Civic District  นั้นมีอาคารที่สะท้อนเรื่องราวในอดีตของสิงคโปร์  รวมถึงเป็นที่ตั้งของ Museum ซึ่งรวบรวมความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมอันหลากหลายของชนชาติต่าง ๆ ในอดีตก่อนจะมาเป็นสิงคโปร์ในวันนี้

ในบริเวณนี้ยังมีรูปปั้นบรอนซ์เสมือนจริงอยู่ด้วย  ซึ่งรูปปั้นเหล่านี้สะท้อนถึงวิถีชิวิตริมน้ำของผู้คนในอดีต ถือเป็นผลงานประติมากรรมชิ้นเอกของสิงคโปร์เลยทีเดียว

อาคารสวย ๆ ย่าน Civic District

Meseum

นอกจากนี้รูปปั้นของท่านเซอร์ แสตมฟอร์ด  ซึ่งเป็นผู้คนพบประเทศสิงคโปร์คนแรกก็อยู่ในบริเวณนี้เช่นเดียวกัน

บรรยกาศริมน้ำ

รูปปั้นทองเหลืองริมน้ำ สะท้อนวิถีชีวิตของชาวสิงคโปร์ในอดีต

บนเส้นทางสั้น ๆ ที่ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงในการเดินชมนี้  นอกจากจะได้ซึมซับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมดั้งเดิมของสิงคโปร์แล้ว ยังจะได้ชมตึกโคโลเนียนสวย ๆ ริมน้ำที่ถูกแวดล้อมด้วยตึกทันสมัยสูงระฟ้า นับเป็นความแตกต่างที่อยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัวจริง ๆ

ที่อดชื่นชมไม่ได้คือ ทุกกระเบียดนิ้วดูสะอาดสะอ้านและเป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างมาก เรื่องนี้ต้องชื่นชมชาวสิงคโปร์เขาจริง ๆ

5. เส้นทางชมธรรมชาติ ณ เกาะ Pulau Ubin

ใครจะไปคิดล่ะครับว่า นั่งเรือจากสิงคโปร์ไปไม่ไกลแค่ราว  15 นาที  จะมีเกาะเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่ชื่อ Pulau Ubin ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่ค่อนข้างสมบูรณ์และกำลังได้รับความนิยมในหมู่ชาวสิงคโปร์ สภาพแวดล้อมของที่นี่หมือนสิงคโปร์เมื่อ 50 ปีก่อน ไม่มีตึกสูง ไม่มีรถไฟฟ้า ถนนบางส่วนยังเป็นลูกรัง บอกใครก็คงไม่เชื่อว่านี่คือสิงคโปร์ .. ในวันหยุดจะมีนักท่องเที่ยวจากในเมืองต่อคิวขึ้นเรือที่ให้บริการระหว่างเกาะยาวเหยียด เพื่อมาปั่นจักรยานและเดินชมธรรมชาติบนเกาะแห่งนี้

บรรยากาศที่ท่าเรือ

เรือข้ามฟากมายังเกาะ  ครบ 12 คนจึงออก … วันที่ผมไปคนเยอะมาก เรือต้องต่อคิวกันเข้าฝั่ง

จักรยานให้เช่าขายดีมาาาก

ทางลูกรังที่ไม่นึกว่าจะได้เห็นในสิงคโปร์

เส้นทางเดินชมธรรมชาติ ป่าโกงกาง (บางส่วนปิดซ่อมบำรุงจนถึงปลายเดือนมกราคม 58)

Pulau Ubin – Chek Jawa Wetlands

สมัยก่อนเคยมีการทำแร่ที่นี่ ทำให้เกิดสระลึกหลายแห่งบนเกาะ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวไม่น้อย

บรรยากาศริมทาง ไม่ต่างจากบ้านเรานัก

สำหรับคนไทย เราโชคดีมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันหลากหลายมากมาย  จึงอาจจะไม่ตื่นเต้นมากนักกับการได้มาเที่ยวที่นี่ แต่ถ้าชอบแนวปั่นจักรยานและพอมีเวลาเหลืออยากให้ลองมาที่นี่ครับ จะได้เบรกจากอารมณ์อันพลุกพล่านของเมืองบ้าง

6. เส้นทางสุขภาพกับสองสถาปัตยกรรมสุดแนว … จาก Henderson Waves ถึง Alexandra Arch

สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีสถาปัตยกรรมล้ำ ๆ มากมาย  ที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็อยู่แถบ Marina Bay แต่ที่จริงแล้วยังมีสิ่งปลูกสร้างที่ถูกออกแบบอย่างสวยงามซ่อนตัวตามจุดต่าง ๆ อีกหลายแห่ง อาทิ Henderson Waves ซึ่งเป็นสะพานที่มีความยาวกว่า 274 เมตรและสูงกว่า  36  เมตร  เป็นงานออกแบบที่มีรูปลักษณ์สวยสะดุดตาเป็นอย่างมาก  สะพานแห่งนี้เชื่อมต่อระหว่างเส้นทางเดินชมธรรมชาติและออกกำลังกายบนสองเนินเขาเข้าด้วยกัน  และต่อเนื่องไปยัง The Southern Rides ซึ่งเป็นสะพานลอยตัวสำหรับเดินชมธรรมชาติอันร่มรื่น  และสิ้นสุดเส้นทางสายนี้ที่ Alexandra Arch อีกหนึ่งสะพานสวยซึ่งถูกออกแบบเป็นรูปใบไม้  โครงสร้างทำด้วยเหล็กและหินแกรนิต  ต่อม่อเป็นเสาเส้นเดียวที่ถูกดัดเป็นเส้นโค้งสวยงาม

​ วิวจาก Mount Faber จุดเริ่มต้นของเส้นทางสุขภาพ  ซึ่งจากที่นี่มีกระเช้าเชื่อมต่อกับ Vivo City และเกาะ  Sentosa

กระเช้าที่ไปสิ้นสุด ณ​ เกาะ Sentosa

ที่นี่ให้แขวนระฆังแห่งความรัก แทนที่จะเป็นกุญแจ อิอิ

ภาษาไทยชัดเจนเลย

จากจุดลงกระเช้าเดินสบาย ๆ ลงเนินมาเล็กน้อยก็ถึง Henderson Waves, Design โดนใจจริง ๆ  ตอนมี Light up ต้องสวยมาก ๆ แน่

เจอคนมาเดินออกกำลังเป็นระยะ

มองลงไปด้านล่างสะพาน สูงเอาการเลย

หากมองขึ้นมาจากถนนด้านล่างจะเจอกับมุมสวย ๆ แบบนี้ครับ

สะพานแห่งนี้สูงมาก เพื่อเชื่อมเนินสองฝั่งเข้าด้วยกัน

เดินกันต่อครับ เส้นทางร่มรื่นสบาย ๆ

เดินอีกสักพักก็ถึง The Southern Rides

บางช่วงอยู่ระหว่างการซ่อมบำรุง แต่ก็ยังเดินได้ตลอดสาย

สุดเส้นทางที่ Alexandra Arch

Alexandra Arch … สะพานรูปใบไม้  … มองจากด้านบนอาจยังเห็นรูปร่างไม่ชัดนัก

ลงไปดูด้านล่างกันดีกว่า

ของแถมอีกอย่างคือถนนที่เต็มไปด้วยต้นจามจุรี สวยงามมาก ถ้ามาถ่าย Pre Wedding น่าจะเหมาะ

สำหรับ Alexandra Arch และ Henderson Waves จะเปิดไฟย้อมสีอย่างสวยงามตั้งแต่ 1  ทุ่มเป็นต้นไป  ดังนั้นหากเป็นไปได้น่าจะไปชมสองสถานที่นี้ในช่วงโพล้เพล้เพื่อให้ได้แสงไฟที่สวยงามกับฟ้าสีน้ำเงินเข้มในช่วงหลังพระอาทิตย์ตก  เสียดายที่ผมมีโปรแกรมเก็บภาพช่วงเย็นเยอะมากจึงไม่มีเวลาพอที่จะไปในช่วงที่สวยที่สุดของสองแห่งนี้ เลยมีเพียงบรรยากาศช่วงกลางวันมาฝากครับ

7. เส้นทางชมป่าใหญ่ใจกลางสิงคโปร์ … Singapore Botanic Gardens

ด้วยความที่เป็นเมืองใหญ่เต็มไปด้วยตึกสูง  สิงคโปร์จึงสร้างสมดุลด้วยการนำป่าใหญ่มาไว้ใจกลางเมือง  สถานที่แห่งนี้คือ Singapore Botanic Gardens ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ทางพฤษศาสตร์เขตร้อนและเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของคนที่นี่ … สวนนี้มีอายุเกิน 150 ปีบนพื้นที่กว่า 520,000 ตารางเมตร

ภายใน  Botanic Gardens แบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ เช่น Eco lake, Foliage Garden ซึ่งเป็นสวนไม้ใบรูปทรงหลากหลาย, สวนผลไม้ที่ชื่อ Fruit Trees Collection, สวนไม้หอม Fragrant Garden, สวนไม้ทำยา, สวนป่าฝน, สวนปาล์ม  แต่ด้วยเวลาที่มีจำกัด ผมได้มีโอกาสเข้าชมอย่างจริงจังที่สวนกล้วยไม้ National Orchid Garden  เท่านั้น

ถ้ำน้ำตกจำลองที่ทางเข้าด้านหลัง เป็นที่ถูกอกถูกใจผู้มาเยือน

ภายในสวนพฤษศาสตร์แห่งนี้ร่มรื่นไปด้วยไม้นานาพรรณ

ผมเข้าชมที่นี่ครับ Orchid Garden … อันที่จริงก็เดินผ่านสวนขิง, สวนกล้วยมาเหมือนกันซึ่งชมได้ฟรี แต่ที่ Orchid Garden จำหน่ายตั๋วเข้าชมครับ

ด้านในมีกล้วยไม้หลากหลายสายพันธุ์ ทั้งคุ้นเคยและแปลกตา  บางชนิดมีกลิ่นหอมด้วย แปลกจริง ๆ

นอกจากกล้วยไม้แล้วยังมีพันธุ์ไม้ประดับสวย ๆ ตระกูลอื่นอีกมากมายให้เดินชมกันเพลิน ๆ

Highlight ของ  Orchid Garden เห็นจะเป็นซุ้มดอกกล้วยไม้ ที่จะสับเปลี่ยนชนิดของดอกกล้วยไม้ไปตามฤดูกาล  ช่วงที่ผมไปเป็นพันธุ์ดอกเล็กสีเหลืองสดใส

ที่นี่นับเป็นอีกหนึ่งสถานพักผ่อนหย่อนใจสำคัญของชาวสิงค์โปร์ ตอนเย็น ๆ จะเห็นกลุ่มเพื่อนและครอบครัวมานั่งสูดอากาศบริสุทธิ์กันไม่ต่างจากสวนลุมฯ บ้านเรา … ใกล้ ๆ กับสวนกล้วยไม้มีเวทีสำหรับทำกิจกรรมด้วย  ดูเหมือนจุดนี้จะมีคนมานั่งพักผ่อนและทำกิจกรรมกันเยอะที่สุด

แถมพิเศษ อีกหนึ่งเส้นทางเดินกินลมชมวิวที่ Sentosa Boardwalk …

เส้นทางนี้เป็นเส้นทางสั้น ๆ จึงไม่ได้บรรจุเข้าไปกับ 7 เส้นทางหลักด้านบน แต่เห็นว่าน่าสนใจดี โดยเฉพาะคนที่ไปเที่ยว Sentosa อาจมองเส้นทางนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือก

เมื่อเอ่ยถึง Sentosa ทุกคนคงรู้จักกันดี แต่เชื่อว่าส่วนใหญ่จะนั่งกระเช้าหรือไม่ก็รถรางข้ามไปยังเกาะแห่งนี้ … หากไม่เร่งรีบลองใช้เส้นทางที่ชื่อ Sentosa Boardwalk ที่เชื่อมระหว่างตึก  Vivo City กับเกาะ Sentosa ดูนะครับ  เพราะนอกจากไม่ซ้ำกับใครแล้วยังได้ชมวิวสวย ๆ ริมน้ำด้วย  ได้บรรยากาศไปอีกแบบโดยเฉพาะช่วงเย็น ๆ บรรยากาศดีทีเดียว … อาจเลือกเดินทางด้วยรถรางขาไปแล้วเดินทางกลับผ่านเส้นทางนี้ในขากลับก็ได้

มองเห็น Sentosa อยู่ไม่ไกล

มาสิงคโปร์ใคร ๆ ก็ต้องมา Sentosa ที่นี่จึงมีจุดจอดเรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ด้วย

ทางเดินเก๋ ๆ

เป็นไงบ้างครับ 7  เส้นทางนี้ใครไปมาครบแล้วบ้าง ผมยกให้เป็นแฟนพันธุ์แท้สิงคโปร์เลย 🙂

อันที่จริงเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจยังมีอีกมากมาย แต่ด้วยเวลาอันจำกัดก็เลยนำมาฝากกันเพียงเท่านี้ก่อนสำหรับทริปนี้  ไว้มีโอกาสได้ไปสิงคโปร์อีกเมื่อไหร่จะนำมุมเด็ด ๆ มาแนะนำอีกเช่นเคยครับ

สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากทราบข้อมูลการท่องเที่ยวของสิงคโปร์ สามารถเข้าไปสอบถามได้ที่แฟนเพจของการท่องเที่ยวได้ที่นี่ครับ  www.facebook.com/YourSingaporeThailand