Select Page

เข้าชมงานราชพฤกษ์กันเลยครับ

flora2.jpg
ต่อมาเป็นจุดแรก ๆ ที่จะได้พบเมื่อเข้างานครับ ได้แก่สวนสวัสดี และสวนของหน่วยงานต่าง ๆ โดยสวนที่ผมค่อนข้างชอบคือสวนของ CP, สวนของธนาคารกรุงไทย ส่วนที่เหลือก็ใช้ได้ครับ แต่ไม่ถึงกับโดดเด่นมากนัก ภาพถ่ายส่วนใหญ่ผมจะเลือกถ่ายเฉพาะดอกไม้นะครับ เลยไม่ค่อยมีภาพสวนแบบเต็ม ๆ มาให้ได้ดูกัน เพราะวันนั้นอากาศไม่ดี ฟ้าไม่สวย ผมก็เลยไม่อยากถ่ายภาพแบบกว้าง ๆ ครับ

flora3.jpg
ส่วนต่อมาเป็นอีกจุดที่ผมชอบมาก คือส่วนของการแสดงกล้วยไม้ ซึ่งมีมากมายหลายพันธุ์ และมีการจัดสวนกล้วยไม้แบบต่าง ๆ ให้ชมกันอย่างจุใจ รวมถึงจัดแสดงที่สุดของกล้วยไม้ในด้านต่าง ๆ และกล้วยไม้หายากอีกมากมาย

flora4.jpg
อีกส่วนหนึ่งที่น่าสนใจคือสวนนานาชาติ ที่ผมชอมก็คือ เบลเยียม, ลาว, ญี่ปุ่น, ภูฏาน, อินเดีย และจีน

flora5.jpg
หอคำหลวง ถือเป็นจุดเด่นที่สุดของงาน ซึ่งนับเป็นสถาปัตยกรรมที่วิจิตรสวยงามทั้งภายนอกภายใน มีความสวมงามทั้งกลางวันและกลางคืน

flora6.jpg
การแสดงขบวนพาเหรดประดับไฟ เป็นการแสดงปิดท้ายก่อนที่จะปิดงานในแต่ละวัน ซึ่งสามารถเรียกเสียงฮือฮาจากคนชมได้พอสมควร เพราะสีสันของแสงไฟนั้นสวยสดงดงามเป็นอย่างยิ่ง แต่เนื่องจากผมไม่ได้นำขาตั้งกล้องไปด้วยเพราะเกรงจะหนักระหว่างเดินชมงาน ก็เลยถ่ายภาพได้ไม่ค่อยดีนักและสั่นไหวเป็นส่วนใหญ่ จึงนำมาให้ชมพอหอมปากหอมคอครับ

flora7.jpg
นอกจากที่กล่าวมาแล้วยังมีส่วนอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกหลายจุดครับ อาทิอาคารแสดงนิทรรศการซึ่งจะสลับเปลี่ยนหมุนเวียนหัวข้อไปเรื่อย ๆ, สวนไม้ต่าง ๆ , เรือนไทย 4 ภาค, และบริเวณเขียนข้อความถวายพระพรบนใบโพธิ์เพื่อนำไปหล่อเป็นพระพุทธรูปพร้อมกับตีระฆังเพื่อรับน้ำมนต์ เป็นต้น

โดยสรุปของงานราชพฤกษ์แล้ว ถือว่าน่าพอใจในระดับหนึ่งครับ อาจจะเพราะไม่ได้คาดหวังมากนักเนื่องจากมีหลายท่านที่ไปมาก่อนติไว้ค่อนข้างมาก ส่วนตัวแล้วผมให้คะแนนเป็นบวกครับ แม้จะไม่ว้าว แต่ก็สมควรที่จะไปเยี่ยมชมครับ

สิ่งที่ต้องชื่นชมมาก ๆ คือ น้อง ๆ ที่คอยให้ข้อมูลซึ่งพบได้ทั่วพื้นที่งาน ซึ่งทำงานกันน่ารักมาก ๆ และพยายามสอบถามว่าต้องการความช่วยเหลือหรือไม่อยู่ตลอดเวลา
ในเรื่องของอาหาร ผมคิดว่ามีซุ้มอาหารน้อยไปหน่อย ส่วนราคาถือว่าเป็นราคาปกติสำหรับแหล่งท่องเที่ยวระดับนานาชาติ (ราคาพอ ๆ กับที่ภูเก็ตบ้านผมเลยครับ) แต่ถ้าเทียบกับในตัวเมืองก็ถือว่าราคาค่อนข้างสูงอยู่เหมือนกันในบางซุ้ม

ส่วนที่ต้องติ คือเรื่องของห้องน้ำที่มีน้อยโดยเฉพาะบริเวณส่วนองค์กรต่าง ๆ อีกเรื่องคือรถที่พานั่งชมรอบงานไม่เพียงพอต่อความต้องการ (รอคิวนานมาก) แต่เนื่องจากผมไปแต่เช้าและเลือกที่จะเดินไปเรื่อย ๆ ก็เลยไม่เจอปัญหานี้ (แต่เห็นคิวแล้วก็หนาวเหมือนกัน)

สำหรับเรื่องโปรแกรมของผม ผมเข้างานโดยใช้บัตร e-ticket ซึ่งไม่ต้องรอคิว หลังจากนั้นเดินชมสวนองค์กรต่าง ๆ ในช่วงเช้า เกือบ ๆ เที่ยง (ซึ่งเริ่มร้อน) ก็เข้าไปชมสวนกล้วยไม้ เมื่อชมเสร็จแล้วเดินไปทานอาหรที่ซุ้ม Noodle เมื่อทานอาหารเที่ยงเสร็จก็เดินชมงานในอาคารใกล้ๆ และเรือนไทยสี่ภาค ช่วงบ่ายเดินเข้าชมนิทรรศการซึ่งเป็นอาคารในร่มและติดแอร์ ออกมาจากอาคารก็เดินเที่ยวชมสวนนานาชาติและสวนของโครงการหลวง เสร็จจากบริเวณนี้ก็เริ่มเย็นแล้วจึงเที่ยวชมหอคำหลวงทั้งภายนอกและภายใน พอพระอาทิตย์ตกก็ทานข้าวที่ซุ้มการบินไทย (ราคาแพงหน่อยนะครับ) ทานเสร็จก็เดินขึ้นหอชมวิวจากทางด้านบน เห็นหอคำหลวงเด่นเป็นสง่า และได้เห็นสวนนานาชาติอีกหลายสวนในรูปแบบกลางคืน (ที่ชอบคือของเบลเยี่ยม) ลงจากหอเสร็จก็ไปชมน้ำพุดนตรีประกอบการฉายภาพ และสุดท้ายก็มารอชมขบวนพาเหรดที่ลานราชพฤกษ์และออกจากงานราว 2 ทุ่มเศษครับ

night1-1.jpg
ทริปในวันนี้ผมไม่จบแค่นี้ครับ ผมนั่งรถของทาง Night Safariที่จัดบริการฟรี ไปเที่ยวชมที่นี่อีก เสียค่าเข้าชมคนละ 250 บาท เป็น Zone สัตน์นักล่า ก็มีสัตว์ให้ดูพอประมาณแต่ไม่ถึงกับน่าตื่นเต้น จากนั้นก็ไป zone สวันน่า จำนวนสัตว์มีมากกว่า และน่าสนใจกว่าเล็กน้อย และปิดท้ายคือเดินเที่ยวชมสัตว์ที่อยู่ตามกรงรอบ ๆ สระน้ำ กว่าจะออกจากที่นี่ก็ราว ๆเที่ยงคืน ต้องเหมารถสองแถวกลับโรงแรมในราคา 200 บาท เป็นอันสิ้นสุดการเดินทางของวันแรก กลับถึงโรงแรมอาบน้ำเสร็จก็หลับปุ๋ยเลย…