Select Page

คนติดเล่า #12 – เรื่องเล่าหลังทริป Swiss-Italy

นักรบที่ผ่านสมรภูมิมาอย่างโชกโชนย่อมมีบาดแผล … นักท่องเที่ยวก็เช่นกัน ยิ่งเที่ยวเยอะก็ยิ่งมากประสบการณ์ทั้งดีและเรื่องที่เป็นบทเรียน …​กลับจากทริปสวิส-อิตาลีมารอบนี้ อยากแชร์บางอย่างให้ฟัง … เรื่องที่จะเขียนอาจยาวสักนิด แต่อยากให้อ่านกันเพราะผมเชื่อว่ามีประโยชน์กับทุกคนที่คิดว่าจะเที่ยวไปจนกว่าจะไม่มีเรี่ยวแรงเดิน

เริ่มที่เรื่องแรกเลย #ประกันรถ … เห็นผมโพสภาพร่าเริงระหว่างเดินทางรวมถึงตอนกลับมา แต่รู้ไหมว่ารถที่ผมเช่าเกิดอุติเหตุตั้งแต่วันแรกที่ไปถึง …​ ถอยไปชนรถลากคันนึงในปั้มน้ำมันเพราะหวังพึ่งสัญญาณถอยหลังมากเกินไปจนลืมให้คนนั่งหลังช่วยดูทางให้ (รถ VAN 9 ที่นั่งบรรทุกสัมภาระเต็มรถเลยมองกระจกไม่ถนัดนัก และเป็นวันแรกของการขับด้วยจึงยังไม่ชิน) … ความเสียหายรถผมคือไฟท้ายแตก มีรอยบุบเล็กน้อย  ส่วนคู่กรณีวงแหวนที่ใช้ยึดส่วนพ่วงท้ายฉีกขาด … ผมเองเลือกทำประกันแบบ 0 exceed (super CDW คล้ายประกันชั้น 1 ของบ้านเรา) แต่เนื่องด้วยเช่ารถมาจากอิตาลีและเกิดเหตุในสวิสตอนเย็นวันอาทิตย์ แถมมือถือก็ไม่ได้โรมมิ่งมา ด้วยความที่อยากเคลียร์เรื่องให้จบเพราะยังต้องเดินทางอีกไกลพอสมควร เด็กๆ และผู้ร่วมทริปก็ดูเหนื่อยกับการเดินทาง ผมจึงยอมจ่ายเงินสด 100 Euro ให้กับคู่กรณีที่กำลังหัวฟัดหัวเหวี่ยง เพื่อจบปัญหาทั้งๆ ที่กรณีนี้น่าจะใช้ประกันที่ทำมาได้ แต่ก็อย่างที่บอกว่าผมต้องการซื้อเวลาและคนขับรถก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ทำให้การสื่อสารเป็นไปด้วยความยากลำบาก … เอาจริงๆ ตอนนั้นแม้จะไม่ได้สติแตกแต่ก็ทำให้ลืมนึกไปว่าได้โหลด app skype พร้อมซื้อเครดิตสำหรับโทรในต่างประเทศไว้แล้วแท้ๆ  ซึ่งถ้าคิดได้น่าจะโทรหาศูนย์ของ Europe car ให้ช่วยเคลียร์ได้ … สิ่งที่อยากบอกคือแม้จะเคยขับรถมาแล้วหลายครั้งโดยไม่มีอุบัติเหตุ แต่ทุกคนย่อมมีครั้งแรก และนี่คือครั้งแรกของผม ดังนั้นควรทำประกันแบบ super CDW ไว้เป็นดีที่สุด เพราะเคสที่เจออาจหนักหน่วงกว่าที่ผมเจอมาก และถึงแม้ว่าเราจะได้ตระเตรียมตัวมาอย่างดี ทำประกันแบบ super CDW ก็แล้ว แต่พอเวลาเกิดเหตุจริงบางทีสถานการณ์มันก็บีบคั้นให้เราต้องตัดสินใจทำอะไรที่แตกต่างออกไป … เรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับผมคือความรู้สึกของผู้ร่วมเดินทางทุกคน เหตุเกิดแล้วต้องทำใจ อย่าเอามาหมกมุ่นจนทำให้หมดสนุกกับวันท่องเที่ยวที่ยังเหลืออยู่  (ขอบคุณน้องปูน้องต้นที่ให้คำปรึกษาตอนเกิดเรื่องนะครับ สบายใจขึ้นเยอะเมื่อน้องทั้งสองบอกว่า 100 Euro ถือว่าถูกมากแล้วสำหรับค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ^ ^)

สำหรับคนที่เลือกทำประกันรถแบบมาตรฐานหรือ  CDW ซึ่งมีภาระต้องรับผิดชอบค่าเสียหายอยู่ในระดับหนึ่ง (สำหรับรถใหญ่ ภาระตรงนี้อาจสูงพอสมควร) ยังพอมีตัวช่วยครับ สามารถทำ #ประกันเดินทาง แบบที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้ด้วย ช่วยยังไงอ่านต่อกันเลย

เรื่องต่อมาคือ #ประกันการเดินทาง  ที่ทางยุโรปบังคับให้เราทำเพื่อใช้ขอวีซ่านั่นแหละ  ซึ่งถ้าเราทำแบบเบสิคจะครอบคลุมการชดเชยที่เกี่ยวกับการเสียชีวิตหรือต้องรักษาพยาบาลเท่านั้น … ผมอยากแนะนำว่าให้เพิ่มเงินอีกหน่อย แต่จะช่วยให้ครอบคลุมการคุ้มครองค่าใช้จ่ายอีกหลายอย่างที่มักจะเกิดขึ้นกับการเดินทางไปต่างประเทศ  อย่างเช่นค่าเสียหายส่วนแรกของรถเช่ากรณีที่ทำประกันรถแบบมาตรฐาน CDW, กระเป๋าเดินทางสูญหายหรือล่าช้า, การตก flight หรือจะเลือกแบบที่ผมทำคือครอบคลุมกรณีเงินส่วนตัวสูญหาย, notebook เสียหายและเอกสารเดินทางสูญหายด้วยก็ได้

บริษัทที่รับทำประกันเดินทางนั้นมีหลายแห่งครับ เลือกเอาตามสะดวก กรณีเที่ยวยุโรปขอให้ได้รับการรับรองจากกลุ่มเชงเก้นก็แล้วกัน ส่วนของผมทำกับ MSIG ครับเพราะสะดวกดีสามารถซื้อผ่านทางเวปเลย  โดยผมเลือกแผน Easy 2 (ตัวรองทอป) ซึ่งจะซื้อแบบครอบคลุมเฉพาะใน aisa หรือ world wide ก็ได้  แต่เนื่องจากผมเดินทางบ่อยเลยเลือกแบบ world wide แบบรายปีจะได้ไม่ต้องมานั่งทำประกันเป็นรายครั้ง ใครสนใจก็ดูรายละเอียดได้จากลิ้งค์นี้ https://goo.gl/YKv88f และอย่าลืมศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขให้ดีก่อนทำประกัน จะได้เข้าใจว่ากรณีไหนต้องใช้เอกสารหลักฐานอะไรบ้างและมีข้อยกเว้นอย่างไร

มาเรื่องต่อไป … เกือบ #check-in ไม่ได้ … อย่างที่เคยเล่าล่ะครับว่าผมชอบจองที่พักประเภทอพาร์ทเม้นต์  ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีพนักงานต้อนรับเหมือนโรงแรม เวลาจะ check-in ต้องนัดหมายรับกุญแจ หรือเจ้าของบ้านอาจจะส่งรหัสสำหรับเปิดประตูมาให้ล่วงหน้า แต่ครั้งนี้เจ้าของบ้านดันติดเบอร์โทรไว้หน้าประตูให้ติดต่อเพื่อติดต่อ check-in …​ เอาล่ะสิผมไม่ได้เปิดโรมมิ่งมาซะด้วยเพราะกลัวเรื่องค่าใช้จ่ายบานปลาย ทริปก่อนๆ จะมีเพื่อนร่วมทริปอีกกลุ่มที่เค้าเปิดไว้เลยแก้ขัดได้  ยังโชคดีที่คราวนี้ผมโหลด app ​#Skype ไว้ในมือถือและซื้อเครดิตไว้สำหรับโทรออก 10 USD จึงสามารถติดต่อเจ้าของบ้านเพื่อ check-in ได้โดยไม่มีปัญหา ค่าโทรก็ไม่แพงครับโดยเฉพาะเบอร์บ้านนาทีละ 2.3 cent เท่านั้นสำหรับอิตาลี ถ้าเป็นเบอร์มือถือจะราว 20 cent ซึ่งก็ถูกกว่าใช้เบอร์บ้านเราโทรอยู่ดี  ดังนั้นเพื่อนๆ ที่ชอบที่พักสไตล์นี้ก็อย่าลืมเตรียมเรื่องช่องทางสื่อสารให้พร้อมนะครับ เพราะเราไม่รู้หรอกว่าจะต้องเจอปัญหาอะไรบ้างระหว่างเดินทาง  นี่ถ้าผมมีสติมากพอ คงสามารถติดต่อบริษัทรถเช่าได้ตอนเกิดอุบัติเหตุในวันแรกด้วย skype เหมือนกัน

เรื่องสุดท้ายคือ #พาสปอร์ตหาย ในวันก่อนเดินทางกลับซึ่งผมโพสขอความช่วยเหลือในกรุ๊ปเที่ยวยุโปรด้วยตัวเองนั่นแหละครับ กรณีนี้สุดแสนจะโชคดีเพราะท้ายที่สุดแล้วเจอตกอยู่ในซอกข้างที่นั่งรถ … ตอนรู้ว่าหายก็คิดว่าหาในรถจนทั่วแล้ว และช่วยกันหาหลายคนมากกกว่า 2 ครั้ง  คืนนั้นเลยพึ่งพาสิ่งศักสิทธิ์หลวงพ่อแช่มวัดฉลองที่นับถือขอให้หาเอกสารเจอ พอมาตอนเช้าก่อนออกเดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจก่อนจะเข้ามิลานเพื่อติดต่อสถานกงสุล น้องชายก็เจอพาสปอร์ตที่หายทั้งสามเล่มอย่างไม่น่าเชื่อ … สิ่งที่อยากจะบอกก็คือเอกสารสำคัญให้เก็บให้ดี อย่าเปลี่ยนที่เก็บบ่อยๆ และเวลาของหายให้ตั้งสติดีๆ อย่าโทษกัน แล้วหาให้ละเอียดบางทีมันอาจไม่ได้หายไปไหนเลย และเหตุการณ์นี้ผมต้องใช้ skype อีกครั้งเป็นตัวช่วยในการโทรไปขอเลื่อนวันคืนรถและติดต่อสถานกงศลุล (ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนในกลุ่มที่ช่วยแนะนำขั้นตอนการดำเนินการกรณีพาสปอร์ตสูญหายครับ)

ที่เขียนมาผมไม่ได้ใส่อารมณ์ความรู้สึกให้มันดูดราม่า ทั้งๆ ที่เรื่องที่เกิดขึ้นหากใครเจอกับตัวเองจะรู้เลยว่ามันไม่สนุกและหลายคนถ้าเจอก็คงเครียดมาก …  แต่อย่างที่บอกไปแล้วครับว่าเรื่องอะไรที่มันเกิดขึ้นแล้วต้องรีบตั้งสติและปล่อยวาง ไม่เช่นนั้นเราจะทุกข์และหมดสนุกกับความสุขที่รออยู่ข้างหน้า

ก่อนจบอยากบอกว่านอกเหนือจากการเตรียมตัวที่ดีแล้ว #จิตใจ เป็นเรื่องสำคัญมากที่จะกำหนดว่าทริปของเราจะสนุกหรือหมดสนุก และสุดท้ายไม่เชื่ออย่าลบหลู่ #สิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีจริง … เมื่อวานไปแก้บนมาเรียบร้อย วันนี้เลยเอามาเล่าได้อย่างสบายใจ 🙂


1 Comment

  1. วันทนา

    เป็น before after ที่ดีมากจริง ไปมาบางทริปทำไมไม่สนุกก็เพราะประโยคทองนี้นี่เอง
    “อะไรที่มันเกิดขึ้นแล้วต้องรีบตั้งสติและปล่อยวาง “