Select Page

ลมหายใจแห่ง “ปราก”

รีวิวทั้ง 9 ตอนของทริปนี้

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –
ความเดิมจากตอนที่แล้ว   เราได้ชมความสวยงามในแบบเมืองเล็กเสมือเทพนิยายของเมือง Cesky Krumlov ไปแล้ว … วันนี้เราได้เดินทางมาอีกถึงหนึ่งจุดหมายหลักของทริปนี้  ซึ่งเป็นเมืองที่หลายคนอยากมาเห็นกับตาสักครั้ง  รวมถึงเพื่อน ๆ ร่วมทริปยุโรปปีที่แล้วด้วย  เสียดายที่ตอนนั้นเมืองนี้อยู่นอกเส้นทาง  ผมจึงจำเป็นต้องตัดออกไป  แต่ในปีนี้เมืองใหญ่แห่งนี้ถูกบรรจุอยู่ในโปรแกรมอย่างชนิดที่ขาดไม่ได้  … ผมกำัลังพูดถึง “ปราก” เมืองหลวงแห่งสาธารณรัฐเช็ก  อีกหนึ่งเมืองที่ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก

 

เนื่องด้วย “ปราก” หรือ “ปราฮา (Praha)” ตามการเรียกในภาษาเช็ก  เคยเป็นถึงเมืองหลวงของแคว้นโบฮีเมียมาก่อน  จึงไม่แปลกเลยที่สิ่งปลูกสร้างในเมืองหลวงแห่งนี้ ยิ่งใหญ่อลังการ เมื่อเทียบกับเมืองอื่น ๆ ที่เราผ่านมาในช่วง 3-4 วันนี้  และแม้ปรากจะผ่านช่วงเวลาแห่งศึกและสงครามทั้งภายในและภายนอกมาตลอดหลายร้อยปี แต่ดูเหมือน “ปราก” ยังคงรักษาความงดงามแห่งสถาปัตยกรรมที่เป็นเสมือนสมุดบันทึกเรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์ไว้เป็นอย่างดี  และยังคงเป็นลมหายใจที่หล่อเลี้ยงเมืองแห่งนี้ให้ยังคงโดดเด่นงดงามไม่แพ้เมืองอื่น ๆ ในยุโรป

หลังจากนำสัมภาระขึ้นไปเก็บบนห้องพักที่ Happy Prague Apartment กันแล้ว  ผมก็ชวนเพื่อน ๆ ไปเดินชมบรรยากาศยามเย็นที่สะพานชาร์ลตามแผนที่วางไว้  ซึ่งวันนี้นอกจากสะพานชาร์ลแล้ว  ผมมีโปรแกรมที่จะเดินเีที่ยวย่านเมืองเก่าด้วย … จาก Happy Prague Apartment ผมพาเพื่อน ๆ เดินลัดเลาะตามตรอกซอกซอยไม่ถึง 5 นาทีก็มาทะลุถนนที่มุ่งไปยังสะพานชาร์ล  อันที่จริงผมก็ไม่ได้้จำชื่อถนนได้  แต่ดูจากจำนวนผู้คนที่เดินหลั่งไหลบนถนนสายนี้ก็พอจะเดาได้ทันทีว่าเราใกล้สะพานชาร์ลมากแล้ว

เย็นวันนี้สะพานชาร์ล (Charles bridge) คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมาย  และเหล่าพ่อค้าและเหล่าศิลปินที่มีเปิดแผงขายของกันบนสะพาน  ทุก ๆ ย่างก้าวบนสะพานเต็มไปด้วยความสุนทรีย์ของศิลปะแขนงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพเขียนสวย ๆ, ภาพถ่ายอันงดงามของปรากในมุมต่าง ๆ, ดนตรีคลาสสิค …สิ่งเหล่านี้ประกอบกับทิวทัศน์โดยรอบ  รวมกันเป็นบรรยากาศที่สุดแสนจะลงตัว … แน่นอนว่าสำหรับช่างภาพอย่างผมแล้ว  อาจรู้สึกอึดอัดพอควรที่ไม่สามารถถ่ายภาพสถานที่ได้ง่ายนักเพราะมีผู้คนมากมายเหลือเกิน  แต่หากคุณเป็นช่างภาพแนวสตรีทหรือแนวไลฟ์ผมมั่นใจว่าต้องชอบบรรยากาศที่นี่มาก ๆ

วิวเมื่อเมื่อมองจากสะพานชาร์ลยามเย็น

นอกจากความสวยงามของตัวสะพานที่ดูเก่าแก่คลาสสิค  ซึ่งมีป้อมสูงอยู่ที่ปลายทั้งสองด้านของสะพานแล้ว   บนสะพานชาร์ลยังมีรูปปั้นของเหล่านักบุญต่าง ๆตลอดแนวสองข้างของสะพาน  ซึ่งบางเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ของเมืองแห่งนี้  .. ความเชื่อเรื่องการลูบที่บริเวณรูปปั้นเพื่อขอพรนั้นทำให้ บางส่วนของรูปปั้นสีเ้ข้มเผยให้เห็นสีทองของโลหะด้านในสวยงามไปอีกแบบ

นอกจากนี้เมื่อยืนบนสะพานที่ทอดผ่านแม่น้ำ “วัลทาวา”  ด้านหนึ่งจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของ “ปราสาทปราก”  ซึ่งเป็นปราสาทโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก    อีกด้านจะเห็นความสวยงามของตึกเก่าในฝั่ง old town  สวยคลาสสิคจริง ๆ

อากาศเย็นวันนี้ค่อนข้างครึ้มฟ้าครึ้มฝน  ผมจึงชวนเพื่อน ๆ เดินย้อนกลับไปทางฝั่ง old town เพื่อไปเที่ยว old town square ตามที่วางแผนไว้  แต่ยังไม่ทันถึงจุดหมาย  ฝนก็ตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนต้องเปลี่ยนแผนกลับที่พักแทน

ที่พักวันนี้เป็นแบบ Apartment ที่มีเครื่องครัวครบครัน   เราจึงทำอาหารค่ำทานกันอย่างสะดวกสบาย  แถมยังมีห้องนั่งนานอาหารเป็นสัดส่วน  นับว่าคุ้มค่ามากกับราคา 30 ยูโร/คน  ที่ได้ห้องพักกว้างขวางและอยู่ในทำเลเยี่ยมแบบนี้

หลังจากทานอาหารค่ำแล้ว ผมเช็คอาการด้านนอกพบว่าฝนเริ่มซาแล้ว จึงหยิบกล้องพร้อมขาตั้งออกไปเก็บบรรยากาศยามค่ำ … ผมเลือกเดินไปเริ่มถ่ายภาพบริเวณทางเดินริมแม่น้ำ  เพื่อให้สามารถเก็บภาพของสะพานชาร์ลยามค่ำที่มีปราสาทปรากเป็นฉากหลังยามค่ำคืน  ซึ่งท้องฟ้าสีน้ำเงินยามนี้ทำให้ตัวปราสาทและสะพานดูสวยงามมากทีเดียว  หลังจากนั้นผมจึงเดินต่อไปถ่ายภาพบนสะพาน  ซึ่งผู้คนแม้จะบางตาลงจากเมื่อตอนเย็นแต่ก็ยังถือว่ายังมีเยอะพอสมควร …  แสงสีของหลอดไฟที่ประดับตามตึกสะท้อนลงบนผิวน้ำสลับกับเรือที่พานักท่องเที่ยวชมปรากในยามราตรีช่างเป็นบรรยากาศที่สวยงามจับใจ  เสียดายที่ผมไม่ได้ชวนเพื่อน ๆ มาด้วยกัน  เพราะเกรงว่าจะไม่สบายจากละอองฝน  จึงทำได้เพียงบันทึกภาพความทรงจำนี้ไปฝากเป็นการทดแทน

ความงดงามของปราสาทปรากและสะพานชาร์ลยามค่ำ

คืนนั้นผมหลับไปด้วยความอ่อนเพลียเช่นเดิม  แต่ก็ตื่นขึ้นโดยอัตโนมัติเหมือนทุกเช้าเพราะวันนี้มีแผนที่จะไปเก็บบรรยากาศตอนเช้าบนสะพานชาร์ลตามที่เพื่อน ๆ เคยแนะนำไว้  … ผมเดินออกจาก apartment ตอนตี 5 ครึ่งแต่แสงนั้นสว่างมากแล้ว  ผมจึงต้องเร่งฝีเท้าเพื่อให้ทันเก็บแสงสวย ๆ ตามที่ตั้งใจไว้ … อากาศวันนี้เรียกได้ว่าดีเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับเมื่อวาน  ฟ้ามีเมฆบ้างแต่ก็ไม่ครึ้มฟ้าครึ้มฝน  ผมแอบยิ้มในใจเพราะความหวังที่จะได้ภาพสวย ๆ ของปราสาทปรากในเช้าวันนี้คงไม่พลาดแน่แล้ว

ความสวยงามของสะพานชาร์ลยามเช้า

สะพานชาร์ลในช่วงเช้ามีคนน้อยมาก ๆ ส่วนใหญ่เป็นเหล่าช่างภาพที่มาเก็บบรรยากาศกันเพราะคงรู้ดีว่านี่เป็นเวลาที่มีคนน้อยที่สุด  ผมใช้เวลาเก็บภาพทั่ว ๆ ไปอยู่เกือบชั่วโมงจึงเดินทางกลับไปยังที่พัก ซึ่งวันนี้เรามีกำหนดจะเดินเที่ยวสะพานชาร์ลกันอีกครั้งและเข้าชมปราสาทปรากให้เร็วที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงผู้คน … เราใช้เวลาทานอาหารเช้ากันอย่างรวดเร็ว  จากนั้นจึงออกเดินมายังสะพานชาร์ลอีกครั้งเพื่อให้เพื่อน ๆ ได้เก็บภาพของสะพานชาร์ลในยามเช้ากันอีกครั้ง

ช่วงสาย ๆ นักท่องเที่ยวก็ยังไม่เยอะมาก นับเป็นอีกช่วงที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพ

จากนั้นจึงไปขึ้นรถรางฝั่งตรงข้ามเพื่อขึ้นไปยังปราสาท  โดยเราขึ้นรถสาย 22 ตามที่อ่านรีวิวไว้  แต่เจ้ากรรมผมดันนำเพื่อนขึ้นผิดฝั่ง  ก็เลยได้เที่ยวเมืองปรากเพิ่มขึ้นอีกหลายสถานี อิิอิ  ยังดีที่จำชื่อสถานีบางสถานีได้ (ศึกษาไว้เพื่อหาจุดถ่ายภาพ)  จึงทำให้รู้ว่าเราขึ้นผิดฝั่งซะแล้ว

เราถึงปราสาทช้ากว่าที่ตั้งใจไว้เล็กน้อยเพราะหัวหน้าคณะมัวแต่พาไปเที่ยวนอกเส้นทาง  แต่ยังโชคดีที่นักท่องเที่ยวยังไม่ได้แน่นขนัดนัก  สาว ๆ ของเรายังได้ถ่ายภาพกับทหารหน้าปราสาทโดยไม่ต้องต่อคิวนานนัก  หุหุ  นี่ถ้าขนกลับบ้านได้คงขนกลับไปด้วยเพราะแต่ละคนหล่อไม่เบา  สงสัยเหลือเกินว่าเขาคัดเลือกหน้าตาด้วยหรือเปล่า

เราซื้อตัวเข้าชมปราสาทแบบสั้น  ซึ่งรวมการเข้าชม มหาวิหารเซนต์วิตัส (Cathedral of St Vitus) พระราชวังเก่า, เซนต์จอร์จบาซิลลิกา (St George‘s Basilica), ถนนโกเด้นเลนกับหอคอยดาไลบอร์ก้า  โดยจุดหมายแรกของเราวันนี้คือมหาวิหารเซนต์วิตัส …

ต้องยอมรับว่ามหาวิหารแห่งนี้ใหญ่โตสมคำล่ำลือจริง ๆ  ภายนอกดูยิ่งใหญ่อลังการ  แต่ยิ่งอึ้งเมื่อได้สัมผัสกับความงามภายใน  … โชคดีมากที่อนุญาตให้สามารถถ่ายภาพในนี้ได้  จึงได้มีโอกาสนำ่ส่วนหนึ่งของความสวยงามมาฝากเพื่อน ๆ … มหาวิหารแห่งนี้ใช้เวลาสร้างกว่า 500 ปีและเพิ่งจะเสร็จเมื่อต้นศัตวรรษที่ 20 นี่เอง  ศิลปะด้านในจึงดูหลากหลายตั้งแต่แบบโกธิคซึ่งเป็นยุคที่เริ่มสร้างเรื่อยไปจนถึงนีโอโกธิคและเรเนอซองส์ … ภายในจะแบ่งเป็นล็อค ๆ โดยแต่ละล็อคประดับด้วยกระจกสีที่มีลวดลายกราฟิคบ้าง  หรือแม้แต่เป็นภาพเกี่ยวกับศาสนาบ้าง … โดยเฉพาะบ้างด้านนั้นแสงทะลุลงมาสะท้อนบนผนังข้าง ๆ ระยิบระยับสวยงามมาก ๆ

ความสวยงามของมหาวิหารเซนต์วิตัส

ส่วนตัวผมนั้นเป็นช่างภาพที่ชอบแนวธรรมชาติมากกว่าแนวสถาปัตยกรรม  แต่ต้องยอมรับว่ามหาวิหารแห่งนี้ทำให้ผมอึ้งและประทับใจมาก จนใช้เวลาถ่ายภาพในนี้เกือบชั่วโมงเลยทีเดียว …

ถัดจากมหาวิหารเซนต์วิตัสแล้วเราก็ได้เข้าชมพระราชวังเ่ก่าซึ่งห้ามถ่ายภาพ … จากนั้นก็เข้าชมเซนต์จอร์จบาซิลลิกา  ซึ่งดูอึมครึมพอสมควรเพราะเป็นที่ฝังศพของเหล่าอัศวินและคนสำคัญต่าง ๆ มากมาย … โปรแกรมของเราปิดท้ายกันที่ Golden lane หรือหมู่บ้านช่างทองที่มีสีสันสวยงาม และแน่นอนว่าเป็นแหล่งให้ซื้อของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้าน

เราออกจากปราสาทปากที่ประตูฝั่งที่ติดกับ Golden lane ซึ่งจากจุดนี้ผมได้ศึกษาไว้แล้วว่าสามารถเดินไปยังสวนสาธารณะที่ชื่อ Letna Park  ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นสะพาน 4-5 แห่งทอดข้ามโค้งแม่น้ำสวยงามมาก  … ทั้งนี้เราใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาทีก็ถือจุดชมวิวแห่งนี้  ซึ่งแน่นอนว่าเราใช้เวลาถ่ายภาพกันพักใหญ่ให้คุ้มค่าเหนื่อยที่อุตส่าห์เดินกันมา  ก่อนที่จะนั่งรถกลับไปยังย่าน old town เืพื่อเก็บตกแหล่งท่องเที่ยวฝั่งโน้น

โค้งน้ำกับสะพานอันงดงาม

วิวแบบนี้จาก Letna Park ใกล้กับปราสาทปรากนั่นเอง

ย่าน old town มีจุดที่น่าท่องเที่ยวมากมาย ๆ อาทิ  St. Nicholas Church ,  Týn Cathedral , Old Town Hall ที่เป็นที่ตั้งของ Astronomical Clock ซึ่งบริเวณนี้จะมีนักท่องเที่ยวมากมายๆ ไม่แพ้สะพานชาร์ล  มีรถม้านำเที่ยวช่วยเสริมบรรยากาศให้ดูคึกคัก  มีดนตรีเปิดหมวกคอยเรียกเสียงปรบมือจากผู้ชม … ผมชวนเพืื่อน ๆ ขึ้นไปชมวิวสวย ๆ ของฝั่งนี้บน Old Town Hall ซึ่งได้บรรยากาศของปรากในมุมสูงสวยงามไปอีกแบบ  เพราะสามารถชมวิวได้ทั้ง 360 องศา  นอกจากนี้ลิฟท์แก้วที่พาขึ้นยอดหอคอยนั้นเด็ดมากเลย  ไปที่นี่แล้วห้ามพลาดเด็ดขาด

Old Town Square

Týn Cathedral

หลังจากชมเมืองกันแล้วเราก็เลือกร้านอาหารแถวนั้นเป็นมื้อเที่ยงของเรา  ขณะที่รออาหารผมนั่งคุยกับเพื่อนเก่าที่นัดเจอกันที่ปราก ส่วนสาว ๆ ขอตัวออกไปแลกเงินเพื่อเตรียม shopping … แต่แล้วเหล่าสาว ๆ ก็กลับมาด้วยอาการหน้าจ๋อยเพราะเจอพิษร้านแลกเงินของปรากเข้าให้แล้ว … ผมเองก็ลืมเน้นย้ำอีกครั้งให้ระัวังเพราะมัวแต่คุยกับเืพื่อน  ก็เลยโดน rate ที่เรียกว่าโกงกันสุด ๆ คือได้อัตราเพียง 16 CZK ต่อ Euro แทนที่จะเป็น 24 CZK  🙁 … ทั้งนี้ร้านเหล่านี้จะเป็นร้านที่ดูมาตรฐานและเขียนอัตราแลกเปลี่ยนไว้ด้านหน้า  แต่ rate จะมีสองแบบคือถ้าจะได้ rate สูงต้องแลกเยอะมาก (ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย)  ส่วนแลกน้อยกว่านั้นก็โดนแบบพวกเรานั่นเอง  …

ดังนั้นเพื่อน ๆ ที่จะไปเที่ยวเมืองนี้ขอให้ระมัดระวังนะครับ  ทางทีดีให้แลกที่ร้านขอแนะนำให้คุณใช้บริการของ Xchange ซึ่งอยู่ที่หัวมุมถนน Kaprova กับถนน Maiselova เนื่องจากจะได้ราคาดีที่สุด (ใกล้กับจัตุรัสเมืองเก่า อยู่หลังโบสถ์นักบุญนิโคลัส) หรืออาจใช้บริการธนาคารซึ่งให้อัตราแลกเปลี่ยนที่ดีเช่นกัน และมีค่าคอมมิชชั่นเพียง 2%

แม้จะส่งท้ายโปรแกรมในปรากไม่ค่อยดีนัก  แต่พวกเราก็ถือว่าฟาดเคราะห์ไป  ดีกว่าโดนล้วงกระเป๋าเหมือนที่หลาย ๆ คนโดนที่นี่เช่นกัน  … หลังจากทานอาหารมื้ออร่อยเสร็จผมจึงให้เพื่อน ๆ ได้ช็อปปิ้งกันเพื่อให้ลืมเรื่องเซ็ง ๆ ซึ่งก็นับว่าได้ผลเพราะเมื่อเจอกันอีกครั้งดูเหมือนจะสดใสเหมือนเดิมแล้ว

“ปราก” ทำให้ผมรู้สึกและเข้าใจคำว่า “ศิลปะเป็นสากล”  เพราะแม้ผมจะไม่ได้ร่ำเรียนมาทางศิลปะ  ไม่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์ของศิลปะมามากนัก  แต่การได้มาเยือนปราก  เมืองที่ทุกลมหายใจเข้าออกล้วนสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของศิลปะ  ทำให้เรารับรู้ได้ถึงความสุนทรีย์อย่างที่ไม่จำเป็นต้องมีใครมาอธิบายด้วยภาษาทางวาจาที่เราคุ้นเคยแม้สักคำเดียว

วันนี้เราออกจากปรากเพื่อเดินทางต่อไปอีกหนึ่งเมืองสวยของเช็ก “Karlovy Vary” เมืองแห่งน้ำแร่และสปา .. คอยติดตามตอนต่อไปนะครับ

 


11 Comments

  1. Thitipong Kingkaeo (9MOT)

    9MOT – ส่ง link สำหรับ download ข้อมูลให้ทาง e-mail แล้วนะครับ

    มีแผนจะไปเที่ยวเอง 2 คน 2ประเทศเยอรมันและปราก ช่วงเดือนพค. ปีหน้า อ่านรีวิวของคุณมดแล้วน่าสนใจมากรบกวน ขอItinerary ได้มั้ยคะ

  2. Benjawan

    มีแผนจะไปเที่ยวเอง 2 คน 2ประเทศเยอรมันและปราก ช่วงเดือนพค. ปีหน้า อ่านรีวิวของคุณมดแล้วน่าสนใจมากรบกวน ขอItinerary ได้มั้ยคะ

  3. ViVich

    รูปสวยมากเลยค่ะ review ก็เป็นประโยชน์มากสำหรับนักเดินทาง กำลังวางแผนเที่ยวเองและชอบถ่ายรูป อยากทราบจุดถ่ายรูปสวยๆของ Letna park ว่าเป็นจุดไหนใน park ค่ะ หาข้อมูลแล้วมีหลายจุด เช่น palvillion, metronodome , letna beer garden. คงมีเวลาจำกัดตอนเดือนต.ค. เลยอยากทราบจุดถ่ายตามรูปของคุณมดค่ะเผื่อจะได้ไม่ต้องเดินหารอบpark ค่ะ ขอบคุณค่ะ

  4. thitipong

    ดีใจที่ชอบรีวิวนะครับ และคิดว่าเดือนตุลาคมคงสวยคลาสิคไปอีกแบบ แต่อย่าลืมว่าเดือนตุลาเป็นหน้าหนาว ฟ้าจะมืดเร็วกว่าฤดูร้อน จะเดินทางแบบผมเป๊ะ ๆ ไม่ได้นะครับ

    เชคสวยจังเลยค่ะ ฝีมือการถ่ายภาพของนายมดขั้นเทพมั๊กมั๊กค่ะ เห็นแล้วอยากไปเที่ยวซะเดี๋ยวนี้เลย แทบรอทัวร์เดือนตุลาไม่ไหวแล้ววววว ที่บ้านเราจองทัวร์เชค-เยอรมัน-ออสเตรียไว้ค่ะ นี่ถ้าเราจะไปกันเองก่อน เราจะรบกวนขอ Itinerary ของนายมดได้มั๊ยคะ ขอไปเป็นต้นแบบชนิดโคลนนิ่งเลย 555 เราว่าต้องสนุกกว่าไปกับทัวร์แน่ๆ …

  5. ป้านก

    เชคสวยจังเลยค่ะ ฝีมือการถ่ายภาพของนายมดขั้นเทพมั๊กมั๊กค่ะ เห็นแล้วอยากไปเที่ยวซะเดี๋ยวนี้เลย แทบรอทัวร์เดือนตุลาไม่ไหวแล้ววววว ที่บ้านเราจองทัวร์เชค-เยอรมัน-ออสเตรียไว้ค่ะ นี่ถ้าเราจะไปกันเองก่อน เราจะรบกวนขอ Itinerary ของนายมดได้มั๊ยคะ ขอไปเป็นต้นแบบชนิดโคลนนิ่งเลย 555 เราว่าต้องสนุกกว่าไปกับทัวร์แน่ๆ
    นายมดเขียนบล๊อดได้น่าอ่านมากค่ะ เชียร์ให้เขียนหนังสือ”คู่มือนำเที่ยวด้วยตนเองสไตล์นายมด”ออกมาจำหน่ายค่ะ รับรองเราจะเป็นลูกค้าคนแรก และจะซื้ออ่านทุกเล่มทุกประเทศด้วย เราเชื่อว่าจะต้องมีแฟนคลับเยอะแน่ๆ เลย ภาพก็สวยขั้นเทพ สไตล์การเขียนก็น่าติดตาม ข้อมูลเนื้อหาก็เป็นประโยชน์มั๊ก นี่ถ้านายมดเปิดรับสมัครลูกทัวร์เพิ่มสำหรับทริปหน้า เราขอสมัครไปด้วยนะ 4 ชีวิตเอง 555555
    ขอบคุณนะคะ สำหรับภาพสวยๆ และข้อมูลดีดี ที่มาแบ่งปันกัน อ่านเรื่องราวของคุณแล้ว อยากเป็นคนที่หลากหลายความสามารถอย่างคุณจัง น่าทึ่งมากค่ะ

  6. Kay

    ขอบคุณคับพี่มด ข้อมูลดีๆทั้งนั้นเลยคับ

  7. มิ้งค์

    ที่พักที่ปรากหาที่จอดรถง่ายไหมคะ

  8. thitipong

    9MOT: ขอบคุณครับ .. แหม ชมซะตัวลอยเลย … ยังไงก็ขอให้เที่ยวสนุก ได้ภาพสวย ๆ กลับมาเยอะ ๆ นะครับ

    ฝีมือถ่ายภาพเยี่ยมไปเลยค่ะ แสงและองค์ประกอบภาพสมบูรณ์ ชอบรูปที่ถ่ายช่วงหัวค่ำด้วยขยันดี หาข้อมูลจากกูเกิลและเคยอ่านของคุณมดผ่านๆจำไม่ได้ มาค้นข้อมูลจริงจังอีกทีเพิ่งจะมาเจอเว็บนี้ค่ะ อ่านตั้งแต่ มิวนิก ครุมลอฟและฮัลสตัท(ชอบมาก)เดือนหน้าจะไปเที่ยวเองกับเพื่อนๆแล้ว(ไปรถไฟค่ะไม่ได้เช่ารถขับ)จะหามุมถ่ายแบบนี้ได้ไม้นะ
    ขอบคุณที่แบ่งปันภาพและข้อมูลค่ะ

  9. Atipp

    ฝีมือถ่ายภาพเยี่ยมไปเลยค่ะ แสงและองค์ประกอบภาพสมบูรณ์ ชอบรูปที่ถ่ายช่วงหัวค่ำด้วยขยันดี หาข้อมูลจากกูเกิลและเคยอ่านของคุณมดผ่านๆจำไม่ได้ มาค้นข้อมูลจริงจังอีกทีเพิ่งจะมาเจอเว็บนี้ค่ะ อ่านตั้งแต่ มิวนิก ครุมลอฟและฮัลสตัท(ชอบมาก)เดือนหน้าจะไปเที่ยวเองกับเพื่อนๆแล้ว(ไปรถไฟค่ะไม่ได้เช่ารถขับ)จะหามุมถ่ายแบบนี้ได้ไม้นะ
    ขอบคุณที่แบ่งปันภาพและข้อมูลค่ะ

  10. thitipong

    9MOT – ขอบคุณมากครับที่แวะเข้ามาเยี่ยมชม 🙂

    เห็นภาพแล้ว สวยมากๆ ขอบคุณนะที่แบ่งปันกันดู แต่อ่านคำบรรยายไม่ค่อยชัด คนแก่ตาไม่ค่อยเห็น เนื่องจาก background เป็นสีฟ้าอ่อน ตัวหนังสือเป็นสีขาว จึงอ่านค่อนข้างลำบากสำหรับคนแก่ แต่อย่างไรก็ขอบคุณมากๆ ได้รับภาพมาจากคุณวิภา พูนเพียร ที่ส่งต่อมาให้ดู

  11. เลขา งามวงษ์

    เห็นภาพแล้ว สวยมากๆ ขอบคุณนะที่แบ่งปันกันดู แต่อ่านคำบรรยายไม่ค่อยชัด คนแก่ตาไม่ค่อยเห็น เนื่องจาก background เป็นสีฟ้าอ่อน ตัวหนังสือเป็นสีขาว จึงอ่านค่อนข้างลำบากสำหรับคนแก่ แต่อย่างไรก็ขอบคุณมากๆ ได้รับภาพมาจากคุณวิภา พูนเพียร ที่ส่งต่อมาให้ดู

Trackbacks/Pingbacks

  1. Karlovy Vary เมืองนี้สีลูกกวาด | Blog ท่องเที่ยว - ถ่ายภาพของ "นายมด" - [...] ต่อจากตอนที่แล้ว  พวกเราออกจากปรากในช่วงบ่าย ๆ เพื่อเดินทางสู่อีกหนึ่งเมืองของสาธารณรัฐเช็ก … เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ชื่อ “Karlovy Vary” เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งน้ำแร่และสปา  เพราะเมืองแห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวและสปาระดับโลกก็เพราะน้ำแร่ที่เชื่อกันว่าช่วยรักษาและบรรเทาโรคนั่นเอง เมืองแห่งนี้สร้างขึ้นโดยพระเจ้าชาร์ลที่ 4 (Charles IV) ซึ่งค้นพบสถานที่นี้จากการที่สุนัขล่าเนื้อของพระองค์ตกลงในบ่อน้ำพุร้อน  หลังจากนั้นจึงมีการสร้างเมืองนี้ขึ้นมาในศริสศตวรรษที่ 13…