Select Page

Snorkeling Day @ หมู่เกาะสุรินทร์

Sponsor Review

หลังจากที่ย้ายที่ทำงานใหม่ผมก็แทบจะไม่ว่าง update blog แห่งนี้เลย  เพราะพอถึงบ้านปั๊ปก็อยากจะล้มตัวนอนทันที  ไม่ได้นั่งทำงานต่อตอนกลางคืนเหมือนเมื่อก่อนเนื่องจากเพลียจากการเดินทางในแต่ละวัน  ต้องขออำภัยญาติมิตรที่แวะเข้ามาแล้วม่ายเจออารายใหม่ ๆ เป็นเดือน (หาข้อแก้ตัวน้ำขุ่น ๆ อิอิ) … หลังจากที่ต้องยกเลิกโปรแกรมท่องเที่ยวแบบไกล ๆ ทุกชนิดด้วยเรื่องหน้าที่การงาน ก็เลยมองหาโปรแกรมท่องเที่ยวแบบใกล้ ๆ แทนตามประสาคนชอบท่องเที่ยว ถ่ายภาพ และแล้วสวรรค์ก็มีตา  เมื่อ  Tour Phuket เจ้าประจำโทรมาบอกว่ามี trip เด็ด ๆ ไปดำดูปะการังน้ำตื้นแบบ one day trip ที่หมู่เกาะสุรินทร์   คนใจง่ายอย่างผมก็เลยตกลงไปในอาทิตย์ถัดมาทันทีพร้อมชวนเพื่อนฝูงรวม 5 ชีวิตร่วมทริปนี้ด้วยกัน

เช้าวันอาทิตย์ผมออกเดินทางจากภูเก็ตตั้งแต่ 6:45 เพราะเวลานัดขึ้นเรือคือ 8:30 ครึ่งที่ท่าเรือทับละมุจังหวัดพังงา ซึ่งอยู่ห่างอีกไกลโขทีเดียว  (ปกติจะต้องไปขึ้นที่ท่าเรือน้ำเค็มซึ่งไกลกว่านี้ แต่วันนี้ที่ท่าเรือดังกล่าวมีการประท้วงจึงใช้ที่นี่แทน)   ทีแรกว่าจะแวะทานขนมจีนเจ้าอร่อยกันที่โคกกลอยซึ่งเป็นทางผ่าน  แต่ปรากฎว่าร้านปิด  จึงเปลี่ยนจุดหมายไปเป็นขนมจีน (อีกเช่นกัน) ที่ท้ายเหมือน  แต่ก็ปิดอีก  (สงสัยจะเป็นวันขนมจีนแห่งชาติ)  ในเมื่อร้านปิดหมดก็เลยต้องไปฝากท้องกันที่ 7 eleven สาขาท่าเรือทับละมุซึ่งอยู่ติด ๆ กับบริษัททัวร์ที่เราจะเดินทางกันในวันนี้พอดี

ก่อนออกเดินทางเจ้าหน้าที่ของทางบริษัทก็เรียกประชุม เอ้ย! เรียกรวมกลุ่มเพื่ออธิบายแผนการเดินทาง รวมถึงความปลอดภัยในการเดินทาง  และที่ผมชอบมากก็คืออธิบายเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม และรณรงค์ไม่ให้อาหารปลาหรือจับปลา (นีโม) เพราะเป็นการทำลายระบบนิเวศน์ในท้องทะเล

เมื่อ brief เสร็จแล้วก็ได้เวลาเดินทางกันซะที  ทีแรกผมก็นึกว่านักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่เดินนำหน้าผมกำลังจะไปสิมิลัน  ที่ไหนได้ทั้งหมด (น่าจะราวเกือบ 40 คน)  ล้วนเป็นเพื่อนร่วมทางของผมในวันนี้เดินทางสู่หมู่เกาะสุรินทร์กับเจ้า speed boat ลำเบ้อเริ่ม 3 เครื่องยนต์  ซึ่งน่าจะวิ่งเร็วมากทีเดียว

หมู่เกาะรินทร์

หลังจากที่ทุกคนขึ้นเรือเรียบร้อยก็มีการแจกเครื่องดื่มเพิ่มความสดชื่นให้กับทุกคน  และสามารถหยิบเองเพิ่มเติมได้ตลอดเวลา  จากนั้นก็มีการอธิบายเรื่องความปลอดภัยขณะอยู่บนเรือ  ซึ่งก็ได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้างเพราะเสียงเรือค่อนข้างดัง  แต่ก็ไม่เป็นห่วงมากนักเพราะได้มีการอธิบายรอบหนึ่งแล้วก่อนขึ้นเรือ  ทั้งนี้จะมีเจ้าหน้าที่ทั้งคนไทยและฝรั่งคอยเข้ามาพูดคุยด้วยเป็นระยะ  ดังนั้นถ้าใคร พูด-ทาย-ม่าย-ค่อย-ทาหนัด ก็ไม่ต้องห่วงครับเพราะมีเจ้าหน้าที่เป็นฝรั่งตัวเป็น ๆ ด้วย …

การเดินทางบนเรือ speed boat แม้ว่าจะเป็นลำใหญ่และความเร็วสูง แต่เนื่องจากระยะทางไกลมาก  จึงต้องใช้เวลาเดินทางราว 1:45 ชม. (วันที่อากาศไม่ดี ลมแรงอาจใช้เวลามากกว่านี้อีก โอ๊วแม่เจ้า) ดังนั้นขอแนะนำว่าเพื่อน ๆ ที่จะมาทริปนี้น่าจะหากิจกรรมฆ่าเวลาติดตัวมาด้วย  อย่างผมเองก็นั่งฟัง ipod เพลินไปเลย  ในขณะที่หลาย ๆ คนเลือกที่จะงีบเอาแรงหลังจากต้องตื่นแต่เช้า

หลังจากแล่นท่ามกลางทะเลที่ค่อนข้างราบเรียบมาได้พักใหญ่  เราก็มาถึงเกาะสุรินทร์ใต้ (หนึ่งในสองเกาะใหญ่ของหมู่เกาะสุรินทร์)   ซึ่งจุดนี้เป็นจุดแรกที่เรือจะลอยลำให้พวกเราได้ลงไป snorkeling กัน   โดยอ่าวแห่งนี้ชื่อ “อ่าวผักกาด”   อันเนื่องมาจากปะการังบริเวณนี้มีลักษณะที่คล้ายผักกาดนั่นเอง .. ผมรอให้เหล่านักท่องเที่ยวทยอยกันลงน้ำเพื่อให้มีพื้นที่สำหรับถ่ายภาพในมุมต่าง ๆ ได้สะดวก แต่ก็ดูเหมือนแสงจะไม่ค่อยอำนวยเพราะท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆ  ทำให้ถ่ายภาพได้ไม่สดใสเท่าที่ควร  ทั้ง ๆ ที่ความจริงสีน้ำทะเลของเกาะสุรินทร์ก็สวยงามไม่แพ้เกาะอื่น ๆ ในทะเลอันดามัน  ในที่สุดผมก็ต้องลงน้ำเพราะหามุมถ่ายภาพที่ถูกใจไม่ได้ และกลัวว่าอยู่บนเรือจะเมาเรือเสียเปล่า ๆ เพราะใกล้ ๆ ฝั่งคลื่นค่อนข้างแรงทำให้เรือโคลงไปมาพอสมควร

ผมดื่มด่ำกับความงามของปะการังน้ำตื้นของอ่าวผักกาดอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง  เสียดายจริง ๆ ที่ไม่สามารถเก็บภาพมาฝากเพื่อน ๆ ได้เพราะกล้องของผมไม่มี housing  .. ครั้นจะเอาใส่ถุงพลาสติกใสมัดหนังยางพลาสติกลงไปก็กะไรอยู่เพราะคงได้แค่ 2-3 ภาพหลังจากนั้นก็ต้อง bye bye เจ้า d90 ตัวนี้ไปตลอดกาล … ตอนดูปะการังเห็นคนใช้กล้อง compact ใส่ housing แล้วแสนจะอิจฉาอยากได้บ้าง หุหุ เพราะบรรยากาศใต้น้ำที่นี่สวยงามสมกับเป็นจุดดูปะการังน้ำตื้นที่สวยที่สุดจุดหนึ่งของเมืองไทยเลยทีเดียว

ได้เวเลาขึ้นเรือก็เกือบจะเที่ยงแล้ว เรือจึงนำเราเข้าสู่เกาะสุรินทร์เหนือซึ่งเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติ และแน่นอนมีร้านอาหารซึ่งกำลังรอเหล่านักท่องเที่ยวที่กำลังหิวโซอย่างพวกเราอยู่เช่นกัน อิอิ … ก่อนเรือจะถึงหาด  ผมได้มีโอกาสถ่ายภาพน้ำทะเลใส ๆ ของหมู่เกาะสุรินทร์  หลังจากที่ท้องฟ้าที่ค่อย ๆ เปิดมากขึ้นเรื่อย ๆ นับว่าโชคดีมากทีเดียวที่ได้มีโอกาสแบบนี้แม้ว่าจะยังมีเมฆอยู่บ้างก็ตาม

Snorkeling ที่หมู่เกาะสุรินทร์

หลังจากเรือจอดให้พวกเราขึ้นฝั่งแล้ว  ผมไม่รอช้ารีบเก็บภาพในขณะที่แสงแดดยังคงมีอยู่  ซึ่งหาดด้านตะวันออกที่เรือจอดนี้ก็มีมุมให้ถ่ายภาพหลายมุมทีเดียว …

Snorkeling ที่หมู่เกาะสุรินทร์

Snorkeling ที่หมู่เกาะสุรินทร์

ถ่ายภาพได้สักพักก็ได้เวลาเติมพลังกับอาหารเที่ยงที่ห้องอาหารของอุทยาน  ซึ่งกว้างขวางเพียงพอที่จะรองรับนักท่องเที่ยวได้มากมาย  อาหารที่บริษัททัวร์จัดให้ก็ถือว่าใช้ได้ทีเดียว  มีอาหารอยู่ 4 อย่างและผลไม้สดรสชาติอร่อยทุกอย่างครับ

Snorkeling ที่หมู่เกาะสุรินทร์

ผมทานอาหารเสร็จก่อนใคร ๆ เพราะตั้งใจจะหามุมถ่ายภาพสวย ๆ ให้เต็มที่   … ผมเลือกเดินขึ้นมุมสูงซึ่งเป็นบ้านพักของอุทยานเพราะกะว่าภาพท้องทะเลจากมุมสูงจะให้สีของน้ำที่สวยกว่าเพราะแสงสะท้อนในน้ำจะน้อย  แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะต้นไม้ที่ร่มรื่นของเกาะแห่งนี้บดบังทัศนียภาพจนทำให้ไม่เหมาะกับการถ่ายภาพ  จึงต้องเดินลงไปทางอ่าวฝั่งด้านหลังอุทยาน  และก็ไม่ผิดหวังครับ  เพราะที่นี่มุมของแสงกำลังสวยพอดี  ผมจึงเก็บภาพมาฝากหลายภาพเลยครับ

Snorkeling ที่หมู่เกาะสุรินทร์

Snorkeling ที่หมู่เกาะสุรินทร์

Snorkeling ที่หมู่เกาะสุรินทร์

Snorkeling ที่หมู่เกาะสุรินทร์

Snorkeling ที่หมู่เกาะสุรินทร์

Snorkeling ที่หมู่เกาะสุรินทร์

ชายหาดด้านหลังนี้มีเต้นท์กางอยู่ริมทะเลหลายเต้นท์ทีเดียว เรียกได้ว่าบรรยากาศสุดยอดจริง ๆ

Snorkeling ที่หมู่เกาะสุรินทร์

และที่ขาดไม่ได้ก็คือถ่ายภาพบุคคลกันอย่างสนุกสนานกับน้ำทะเลใส ๆ และฟ้าสีครามเข้ม

Snorkeling ที่หมู่เกาะสุรินทร์

Snorkeling ที่หมู่เกาะสุรินทร์

ก่อนขึ้นเรือผมกลับมาถ่ายภาพใกล้ ๆ ที่เรือจอดอีกครั้ง เห็นกลุ่มเด็ก ๆ ชาวมอร์แกนกำลังเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานจึงบันทึกภาพไว้ เห็นแล้วไม่แปลกใจเลยที่เขาเหล่านี้ว่ายน้ำดำน้ำเก่งทุกคนเพราะอยู่กับทะเลมาตั้งแต่เด็กแบบนี้นี่เอง

Snorkeling ที่หมู่เกาะสุรินทร์

Snorkeling ที่หมู่เกาะสุรินทร์

ขึ้นเรือเดินทางกันต่อ

Snorkeling ที่หมู่เกาะสุรินทร์

หลังจากนั้นก็ได้เวลาที่เราเดินทางกันต่อ ซึ่งช่วงบ่ายนี้เรือแล่นออกมาได้ไม่ถึง 5 นาทีก็แวะให้เราดำน้ำกันตรงอ่าวที่ชื่ออ่าวช่องขาดหน้าอุทยานนั่นเอง ซึ่งผมก็ไม่พลาดที่จะลงไปชมความสวยงามเช่นเดิม หลังจากนั้นจึงเดินทางต่อไปอีกหน่อยเพื่อชมจุดดำน้ำที่สุดที่สุด นั่นก็คืออ่าวแม่ยาย ซึ่งอ่าวแห่งนี้มีดอกไม้น้ำและนีโมตัวโต ๆ ให้เห็นมากกว่าสองจุดแรก และมีปะการังสวย ๆ ที่ยังสมบูรณ์มากมาย นอกจากนี้ยังมีฝูงปลาน้อยใหญ่มากมายสวยงามสมกับที่นั่งเรือมาเป็นชั่วโมง ๆ

ผมยังคงไม่สามารถถ่ายภาพใต้น้ำได้เหมือนเดิมจึงนำภาพของน้ำสวย ๆ จากมุมมองบนเรือมาฝากแทน

Snorkeling ที่หมู่เกาะสุรินทร์

Snorkeling ที่หมู่เกาะสุรินทร์

หลังจากผ่านการดำน้ำดูปะการัง 3 จุดแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางกลับซึ่งทุกคนแทบจะสลบไสลเพราะเพลียจากแดดและการดำน้ำ แต่ทุกคนก็ต้องตื่นก่อนจะถึงฝั่งเพราะเรือแล่นผ่านกลุ่มฝนทำให้เปียกกันคนละเล็กละน้อยพอชื่นใจ ตอนที่เรือแล่นผ่านกลุ่มฝนก็น่ากลัวเหมือนกันเพราะมันดำทะมึนไปหมด พอเรือผ่านฝนมาได้ก็ค่อยโล่งใจ หันกลับไปดูอีกที่เห็นเรือประมงกำลังมุ่งเข้าสู่กลุ่มฝนจึงบันทึกภาพไว้เป็นที่ระลึก

Snorkeling ที่หมู่เกาะสุรินทร์

เรามาถึงท่าเรือกันราว 5 โมงครึ่งซึ่งบรรยากาศกำลังสวยพอดีผมจึงบันทึกภาพไว้เป็นที่ระลึก

Snorkeling ที่หมู่เกาะสุรินทร์

Snorkeling ที่หมู่เกาะสุรินทร์

พวกเรามาถึงฝั่งกันโดยปลอดภัย .. หลังจากนำหน้ากากดำน้ำและ fin ที่ทางทัวร์ให้บริการฟรีไปคืนแล้ว ผมก็พาเพื่อน ๆ ไปแวะทานอาหารเย็นที่ร้านบินหลาหาดท้ายเหมือง ซึ่งเป็นร้านประจำที่อาหารรสชาติถูกปากและราคาถูกมากเมื่อเทียบกับที่ภูเก็ต นับเป็นการปิดทริปดูปะการังน้ำตื้นแบบ one day trip ที่สนุกและประทับใจมากอีกทริปหนึ่ง จึงขอลาเพื่อน ๆ ด้วยภาพแสงสุดท้ายของหาดท้ายเหมืองที่อาจจะเบลอ ๆ หน่อยเพราะไม่ได้เอาขาตั้งกล้องไปด้วย หุหุ

Snorkeling ที่หมู่เกาะสุรินทร์

สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจเดินทางไปทัวร์สนุก ๆ แบบนี้ก็ติดต่อได้ที่คุณโอ๋ yoursvacation โทร 089 726 17 88 ครับผม


1 Comment

  1. rachel jusmine

    9MOT- ขอให้ได้เที่ยวนะครับ

    ถ้ายังมีลมหายใจถึงปีหน้า ก็จะไปให้ได้