Select Page

ทริปนี้สีชมพู

อ่านชื่อ post แล้วไม่ต้องจินตนาการว่าเป็น trip honeymoon หรือเป็น trip แบบหวานแหววนะครับ เพราะที่จริงแล้วเป็นทริปของเหล่าพี่น้องชาวจุฬาฯ ภูเก็ตต่ะหาก  … มีผู้ร่วมทริปทั้งสิ้น 10 คน  แม้จะต่างรุ่น ต่างวัย  แต่หัวใจแห่งการท่องเที่ยวนั้นเท่ากันทู๊กกกคนจริง ๆ

จุดหมายของการเดินทางครั้งนี้อยู่ที่เกาะคอเขา  ซึ่งผมเคยเขียน review ให้เพื่อน ๆไ ด้อ่านกันไปสองครั้งแล้ว  คราวนี้ก็เลยถือโอกาสชวนพี่ ๆ น้อง ๆ ไปเที่ยวกัน  เพราะส่วนใหญ่ยังไม่เคยไป  แถมบางคนยังไม่เคยได้ยินชื่อด้วยซ้ำ  และเพื่อให้การเดินทางที่ต้องใช้เวลาจากภูเก็ตผ่านอำเภอท้ายเหมืองของพังงา จนเกือบถึงอำเภอตะกั่วป่าซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางเกือบ ๆ สองชั่วโมง  ผมก็เลยให้ผู้ร่วมเดินทางแบ่งเป็นทีมแข่ง rally หาตัวอักษรระหว่างทางด้วย  เพื่อไม่ให้คนขับต้องขับคนเดียวในขณะที่คนอื่นหลับอย่างสบายใจ (โดยเฉพาะรถของผมเอง อิอิ)

ภาพนี้แวะถ่ายที่หลัก กม. สุดท้ายก่อนข้ามสะพานสารสินออกจากภูเก็ต  โชคดีที่อากาศวันนี้ค่อนข้างดีมากทีเดียว แถมเมฆยังเป็นปุยเหมือนขนแกะ ถูกใจผมจริง ๆ

เราออกเดินทางกันสาย ๆ ก็เลยมาถึงจุดนัดพบที่ร้านยิ้ม ๆ  ร้านอาหารดังเมืองตะกั่วป่าราวเที่ยงพอดี  ปรากฎว่าทั้งสองทีมสามารถหาตัวอักษรได้ครบถ้วน (ง่ายบ้าง หลงทางบ้าง ทุลักทุเลบ้าง )  ไม่เสียชื่อชาวจุฬา ฯ  เป็นตัวอักษร BON VOYAGE ที่หมายถึง “ให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนั่นเอง”  (เป็นการอวยพรไปด้วยในตัว อิอิ) 

สำหรับรสชาติอาหารมื้อเที่ยงที่ร้านยิ้มๆ ก็ไม่ทำให้เสียชื่อคนแนะนำ  เพราะอร่อยและราคาไม่แพง (โดยเฉพาะเทียบกับที่ภูเก็ตถือว่าถูกมากทีเดียว)  พวกเราก็เลยอิ่มหมีพีมันกันทุกคน  จากนั้นจึงเดินทางต่อไปยังท่าเรือเพื่อข้ามไปยังเกาะคอเขาซึ่งอยู่เลยร้านไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

วันนี้ต้องรอเรือข้ามฟากนานกว่าทุกครั้งเพราะช่วงนี้เป็นช่วง Low Season มีเรือบริการเพียงลำเดียวไม่เหมือนช่วง High ที่มีเรือมาจอดคอยเราทุกครั้ง  แถมช่วงนี้น้ำมันขึ้นค่าเรือข้ามฟากก็เลยขึ้นราคาเป็นคันละ 200 บาท (รวมผู้โดยสารทั้งคัน)  แต่ก็ต้องยอมไปล่ะครับ  ไม่งั้นคงต้องว่ายน้ำข้ามไป อิอิ

ขณะนั่งเรือข้ามฟากไปยังเกาะคอเขา

เรามาถึงที่พักซึ่งได้แก่โรงแรมตะโกลารีสอร์ทราวบ่ายสอง  ซึ่งทริปนี้ผมได้ติดต่อขอราคาพิเศษ เพราะมากันหลายคนและผมเองก็บริหารสปาให้กับโรงแรมที่นี่ด้วยทำให้พี่น้องร่วมทริปทั้งหลายยิ้มหน้าบาน เพราะโรงแรมสวยกว่าที่หลายคนคิด (ผมไม่ได้บอกรายละเอียดโรงแรมมากนัก  หลาย ๆ คนก็เลยคิดว่าคงเป็นบังกะโลเล็ก ๆ ริมหาดที่ไม่ค่อยสวย เนื่องจากค่าห้องถูกมาก) 

ผมเองได้ห้องพักที่อยู่ใกล้ชายหาด  เพราะขอเครื่องเสียงสำหรับร้องคาราโอเกะไว้ด้วย  ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของโรงแรมมาเซ็ตไว้ที่ห้องนี้พอดี  อุปกรณ์สำหรับเล่นคาราโอเกะอยู่กับผมทั้งหมด  ก็เลยกลายเป็นว่าห้องนี้เป็นของผมไปเลย หุหุ   

นี่แหละครับห้องพักของผม

 

ลูกสนและใบสนรอบ ๆ ที่พัก

 

 ถ่ายภาพที่บริเวณชายหาดหน้าที่พัก

 

วิญญาณนางแบบเข้าสิง หุหุ

พอตกเย็นหลังจากที่มีกิจกรรมให้พี่ ๆ น้อง ๆ ได้ยืดเส้นยืดสาย และฮากันกระจายกับเกมส์สันทนาการแล้ว  ผมก็นำทุกคนไปยังโรงแรม C&N ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนักเพื่อชมพระอาทิตย์ตก    ที่เลือกที่นี่เพราะเขามีศาลาทรงไทยริมหาด และมีต้นมะพร้าวที่เอนลงไปบนหาด  ดูแล้วเก๋ดี … และก็ไม่ผิดหวังครับ  ทุกคนสนุกสนานกับการถ่ายภาพช่วงเย็นกันสุด ๆ  กอรปกับท้องฟ้าและแสงวันนี้สวยเหลือเกิน  ผมเองก็ถ่ายจนเพลิน  คนบ้าง วิวบ้าง แทบจะไม่ได้หยุดเลย เพราะนาน ๆ จะได้มีโอกาสถ่ายภาพกับแสงส้ม ๆ ยามเย็นแบบนี้

ฟ้าสวยได้ใจมัก ๆ

ต้นมะพร้าวเท่ห์ ๆ หน้า C&N

เส้นสายสวย ๆ บนชายหาด

คู่รักหวานแหวว

Action มัน ๆ ยามเย็น

หลังจากหนำใจกับการถ่ายภาพช่วงเย็นแล้วก็เดินทางกลับไปยังรีสอร์ทเพื่อทานอาหารมื้อเย็นซึ่งทางโรงแรมได้จัดเตรียมโต๊ะไว้ให้พวกเราแล้ว  มื้อนี้เราให้เชฟของโรงแรมแสดงฝีมือเต็มที่  ทำอะไรก็ได้ทีเชฟอยากทำ  ซึ่งรสชาติอาหารก็ไม่ผิดหวังครับ  อิ่มอร่อยกันทุกคนทีเดียว

บรรยากาศอาหารมื้อค่ำ


 
หลังจากอาหารมื้อค่ำ  พวกเราก็ไปรวมตัวกันที่ห้องพักของผมเพื่อร้องคาราโอเกะกันอย่างเมามัน ซึ่งเพลงมีตั้งแต่สมัย สุนทราภรณ์ .. แกรนเอ็กซ์ … นิโคล… ไปจนถึง So Cool เรียกได้ว่ามีทุกยุค ทุกสมัยกินกันไม่ลงเลยทีเดียว … เกือบเที่ยงคืนทุกคนจึงแยกย้ายกันไปพักผ่อน ส่วนผมนอนหลับอย่างสบายใจภายใต้ผ้านวมอันอบอุ่น

เช้าวันรุ่นขึ้น พี่ ๆ น้อง ๆ กลุ่มหนึ่งตื่นแต่เช้ามาเล่นโยคะ  ในขณะที่ผมยังซุกตัวอย่างสบายภายใต้ผ้าห่ม  กว่าจะตื่นก็ปาเข้าไปแปดโมงเศษ ๆ   ซึ่งได้เวลาทานอาหารเช้าพอดี  … หลังจากทานอาหารเช้าแล้วพวกเราจึงเช็คเอาท์แล้วเดินทางต่อไปยังวัดที่อยู่ติดกับรีสอร์ทเพื่อทำบุญถวายสังฆทานและเทียนพรรษา  เรียกได้ว่าทริปนี้ทั้งสนุกและได้บุญด้วย

หลังจากอิ่มบุญแล้วก็เดินทางไปยังท่าเรือเพื่อขึ้นเรือกลับไปยังฝั่งพังงา … เนื่องจากเวลายังพอมีเหลือเราจึงขับรถกันไปช้า ๆ เพื่อทานข้าวที่ร้านซึ่งผมแนะนำ (ตามเคย) ชื่อร้านบินหลาตั้งอยู่ที่หาดท้ายเหมือง  เป็นร้านธรรมดา ๆ แต่อาหารรสชาติอร่อย ซีฟู้ดสดมาก  ที่สำคัญราคาถูก (ยิ่งกว่ายิ้ม ๆ ซะอีก)  พอเช็คบิลทำเอาหลาย ๆ คนงงไปเลยว่าทำไมมันถูกแบบนี้ (ฟะ)  กินกันเยอะมัก ๆ แต่ราคาถูกกว่าภูเก็ตครึ่งหนึ่งเห็นจะได้  (ทีนี้เข้าใจเลยว่าคนมาเที่ยวภูเก็ต ทำไมเขาบ่นกันจังว่าอาหารแพง)

เนื่องจากยังพอมีเวลาเหลือ และพวกเรายกเลิกโปรกรมล่องแก่งที่สองแพรก (เนื่องจากต้องเดินทางอ้อมค่อนข้างไกล) ก็เลยหาโปรแกรมสำรอง  ซึ่งโชคดีมากที่มีรุ่นพี่จุฬา ฯ ซึ่งมาทำสวนและสร้างบ้านอยู่ที่ทางเข้าน้ำตกลำปีใกล้ ๆ กับหาดท้ายเหมืองนี่เอง  เราจึงไม่รีรอที่จะโทรไปนัด (กึ่งบังคับ)  ขอให้พวกเราเข้าไปเที่ยวที่สวนของพี่เขา  ซึ่งแน่นอนล่ะพี่เขาไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว อิอิ 

เราใช้เวลาเดินทางกันไม่ถึง 20 นาทีก็มาถึงบ้านพี่อนุรักษ์  ซึ่งวันเสาร์อาทิตย์พี่อนุรักษ์จะเดินทางจากภูเก็ตมาพักผ่อนสูดอากาศบริสุทธิ์ที่นี่ และถือโอกาสมาเยี่ยมลูกชายที่มาทำแปลงปลูกดอกหน้าวัวที่สวนแห่งนี้   หลังจากทักทายพูดคุยกันพอหอมปากหอมคอ  น้องแทนและพี่อนุรักษ์ก็พาเดินชมแปลงดอกหน้าวัวสวย ๆ ซึ่งรอวันที่จะถูกตัดเพื่อส่งไปขายที่ภูเก็ต

ดอกหน้าวัวงาม ๆ

หลังจากชมแปลงดอกหน้าวัวสวย ๆ แล้ว  เราขับรถเลยเข้าไปอีกเล็กน้อยเพื่อไปเที่ยวน้ำตกลำปี  น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดของพังงา (ได้ยินมาว่าอย่างนั้น)   ซึ่งช่วงนี้น้ำเยอะเพราะเพิ่งจะผ่านช่วงฝนตกชุกมาหมาด ๆ  แถมน้ำใสแจ๋วไม่เหมือนช่วงฝนตกหนักที่น้ำจะเป็นสีโคลน  ที่น้ำตกแห่งนี้นอกจากผมจะได้ถ่ายภาพน้ำตกอันสวยงามหลายชั้นแล้ว  ยังมีต้นไม้ใบหญ้าสวย ๆ ให้ถ่ายอีกด้วย  บ่งบอกว่าที่นี่ยังคงอุดมสมบูรณ์อยู่มากทีเดียว

บรรยากาศชุ่มชื่นที่น้ำตกลำปี

หลังจากที่พักผ่อนกันที่น้ำตกลำปีพักใหญ่  พวกเราก็ออกเดินทางต่อเพื่อกลับภูเก็ต  ระหว่างทางก็แวะซื้อขนมบะจ่างและขนมโกซุ้ย (ขนมท้องถิ่นของชาวพังงา/ภูเก็ต)ที่ตลาดท้ายเหมือง  และไปทานกันที่ร้านเรือนไม้แก่น  เพราะยังมีเงินกองกลางเหลือพอสมควร ก็เลยถือโอกาสกินกาแฟ กับเค๊กอร่อย ๆ ที่ร้านแห่งนี้เนื่องจากเป็นร้านที่บรรยากาศดีที่สุดในระหว่างเส้นทางกลับบ้าน 

อิ่มอร่อยส่งท้ายที่เรือนไม้แก่น

หลังจากอิ่ม (อีกแล้ว) พวกเราก็ถือโอกาสอำลากันที่นี่และแยกย้ายกันมุ่งหน้ากลับสู่ภูเก็ตไปพร้อมกับความอิ่มท้อง อิ่มใจกับทริปเล็ก ๆ สีชมพูที่ผมจะต้องบันทึกสิ่งดี ๆ และความสุขที่เกิดขึ้นในสองวันนี้ไว้ในความทรงจำตลอดไป


11 Comments

  1. dong

    ขอบคุณครับ ตอบเร็วจัง..

  2. 9MOT

    คุณ Dong ครับ
    ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยม Blog 9MOT นะครับ สำหรับเบอร์โทรของที่โรงแรมตะโกลาคอเขา ติดต่อได้ที่ 076-584200 หรือ 083-1194934 ครับ

  3. dong

    รีสอร์ทสวยจังอยากไปเที่ยวบ้าง รบกวนคุณ MOT อยากได้เบอร์โทรที่รีสอร์ทครับ

  4. 9ra

    น่าไปเที่ยวจัง
    อ๋อ ลืมไป หนังสือใกล้ออกแล้วครับ
    http://phuketindex.com/magazine/08-aug-oct/index.htm

    ดูไปพลาง ๆ ก่อนครับ พี่เขาทำไว้

  5. Prim

    รูปสวยมากๆเลยค่ะ

  6. ningyogaphuket

    เย้ เห็นรูปแล้วไม่ผิดหวังเลย ต้องขอรูปไปใช้บ้างนะจ๊ะ อิอิ อุตส่าห์ลงทุนเป็นนางแบบให้นะ

  7. puey

    ถ่ายได้สวย จัดได้น่าดูครับ

  8. angthong

    ดีใจจังที่รู้ว่าคุณมดยังมีรุ่นพี่ อิอิ

  9. paaying

    รูปสวยจังเลย…ดูแล้วน่าจะสนุกนะคะ
    อยากไปด้วยจัง !!!

  10. kib

    หืม..พี่มด…รูปสวยจัง
    อย่างนี้ต้องมีทริปต่อไปอีกแน่เลย
    คราวนี้คงมีคนยกมืออยากไปกันเพียบ..

  11. bua

    ตามมาเที่ยวจ้า
    น่าสนุกจังเลย

    ภาพสวยมากๆ ^ ^